การวิเคราะห์การแบ่งส่วนตลาดของลูกค้าบ้านจัดสรรในจังหวัดเชียงใหม่

Abstract

การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ (1) เพื่อศึกษาพฤติกรรมการซื้อบ้านจัดสรรของลูกค้าในจังหวัดเชียงใหม่ (2) เพื่อศึกษาระดับความสำคัญของปัจจัย ส่วนประสมทางการตลาดในการตัดสินใจซื้อบ้านจัดสรรของลูกค้าในจังหวัดเชียงใหม่ (3) วิเคราะห์การแบ่งส่วนตลาดของลูกค้าบ้านจัดสรรในจังหวัดเชียงใหม่ จำแนกตามปัจจัยส่วนประสมทางการตลาด การศึกษาในครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงสำรวจ ประชากรที่ใช้ในการศึกษาคือ ผู้บริโภคที่ซื้อบ้านจัดสรรในจังหวัดเชียงใหม่ ช่วงปี พ.ศ. 2552-2555 จำนวนทั้งหมด 15,741 ครัวเรือน กำหนดขนาดตัวอย่างตามวิธีของยามาเน่ ได้จำนวนตัวอย่าง 397 ครัวเรือน ทำการสุ่มตัวอย่างด้วยวิธีชั้นภูมิโดยใช้สัดส่วนตามถนนแต่ละเส้นทางในจังหวัดเชียงใหม่ เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล คือ แบบสอบถาม สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่สถิติเชิงพรรณนา ประกอบด้วย ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และสถิติเชิงอนุมาน ได้แก่Cluster Analysis แบบ K-Means ผลการศึกษา พบว่า (1) ผู้ตอบแบบสอบถามที่ซื้อบ้านจัดสรรในจังหวัดเชียงใหม่ ส่วนใหญ่อาศัยอยู่ถนนเส้นเชียงใหม่-หางดง มากที่สุด ประเภทบ้านจัดสรรที่ซื้อส่วนใหญ่เป็นบ้านเดี่ยวสองชั้น โดยมีขนาดพื้นที่ดินที่เลือกมากที่สุด คือ 50.1 –70.0 ตารางวา ขนาดพื้นที่ใช้สอยของตัวบ้าน 100.1 –120.0 ตารางเมตรมากที่สุดส่วนใหญ่เลือกบ้านจัดสรรราคา 1.51 –2.00 ล้านบาท ใช้ระยะเวลาในการตัดสินใจก่อนซื้อบ้านจัดสรร 4 –6 เดือน มากที่สุด โดยเลือกชำระเงินในการซื้อบ้านจัดสรร ทั้งชำระเป็นเงินสดและผ่อนชำระกับธนาคาร ค่าใช้จ่ายในการผ่อนชำระบ้านจัดสรรต่อเดือนมากที่สุด 14,001 –17,000 บาท ระยะเวลาในการผ่อนชำระบ้านจัดสรรกับธนาคารมากที่สุด คือ ช่วงเวลา 26 –30 ปี (2) ปัจจัยส่วนประสมทางการตลาดที่ให้ความสำคญัมากที่สุด ได้แก่ปัจจัยด้านผลิตภัณฑ์ รองลงมาได้แก่ ราคา ด้านการส่งเสริมการตลาด และให้ความสำคญั กับช่องทางการจัดจำหน่ายเป็นอันดับสุดท้าย (3) การแบ่งส่วนตลาดของลูกค้าบ้านจัดสรรในจังหวัดเชียงใหม่ แบ่งได้ 5 กลุ่ม ได้แก่ (3.1) วัยเริ่มต้นทำงานที่มีรายได้น้อย (3.2) วัยเริ่มต้นทำงานและมีรายได้ปานกลาง (3.3) วัยกลางคนเป็นระดับบริหารมีรายได้สูง (3.4) วัยกลางคนประกอบธุรกิจส่วนตัว มีรายได้ปานกลาง และ(3.5) วัยกลางคนมีรายได้ปานกลาง