ระดับความมีอิทธิพลของปัจจัยที่มีผลต่อการเข้าร่วมค้าปลีกก๊าซหุงต้ม ของผู้ประกอบการสถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิง ในเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง

Abstract

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) ศึกษาระดับความมีอิทธิพลของปัจจัยด้านการจัดการ กฎหมาย และความปลอดภัยที่มีผลต่อการเข้าร่วมค้าปลีกก๊าซหุงต้ม ของผู้ประกอบการสถานีบริการนํ้ามันเชื้อเพลิง (2 ) ศึกษาระดับการเข้าร่วมค้าปลีกก๊าซหุงต้ม ของผู้ประกอบการสถานีบริการนํ้ามันเชื้อเพลิง (3) ศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างระดับความมีอิทธิพลของปัจจัยด้านการจัดการ กฎหมาย และความปลอดภัย กับระดับการเข้าร่วมค้าปลีกก๊าซหุงต้มของผู้ประกอบการ สถานีบริการนํ้ามันเชื้อเพลิง และ(4) ศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างข้อมูลทั่วไปของผู้ประกอบการสถานีบริการนํ้ามันเชื้อเพลิง กับระดับการเข้าร่วมค้าปลีกก๊าซหุงต้ม กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยเป็นผู้ประกอบการสถานีบริการนํ้ามันเชื้อเพลิง ในเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง รวม 223 ราย เครื่องมือการวิจัยเป็นแบบสอบถามแบบมาตรประมาณค่าที่เกี่ยวกับปัจจัยที่มีผลต่อการเข้าร่วมค้าปลีกก๊าซหุงต้ม ที่ผู้วิจัยสร้างขึ้นและมีการทดสอบความเชื่อมั่นแล้วมีค่าเท่ากับ 0.97 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน ส่วนการทดสอบสมมติฐานเกี่ยวกับความสัมพันธ์ใช้วิธีการสหสัมพันธ์ของเพียร์สัน และไคสแควร์ โดยใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์สำเร็จรูปวิเคราะห์ข้อมูล ผลการวิจัยพบว่า (1) ปัจจัยด้านการจัดการ กฎหมาย และความปลอดภัยมีอิทธิพลต่อการเข้าร่วมค้าปลีกก๊าซหุงต้มอยู่ในระดับมาก (2) ผู้ประกอบการสถานีบริการนํ้ามันเชื้อเพลิง มีการตัดสินใจที่จะเข้าร่วมค้าปลีกก๊าซหุงต้มในสถานีบริการนํ้ามันเชื้อเพลิง อยู่ในระดับน้อย (3) ระดับความมีอิทธิพลของปัจจัยด้านการจัดการ กฎหมาย และความปลอดภัย มีความสัมพันธ์กับระดับการเข้าร่วมค้าปลีกก๊าซหุงต้มอยู่ในระดับน้อยที่สุด น้อย และปานกลาง ตามลำดับ อย่างมีนัย สำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 และ (4) ข้อมูลทั่วไปของผู้ประกอบการสถานีบริการนํ้ามันเชื้อเพลิงไม่มีความสัมพันธ์กับระดับการเข้าร่วมค้าปลีกก๊าซหุงต้ม อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05