กรุณาใช้ตัวระบุนี้เพื่ออ้างอิงหรือเชื่อมต่อรายการนี้:
https://ir.stou.ac.th/handle/123456789/8063
ชื่อเรื่อง: | ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อพฤติกรรมการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยของบริษัทจดทะเบียน |
ชื่อเรื่องอื่นๆ: | Factors determining investing behavior in the Stock Exchange of Thailand |
ผู้แต่ง/ผู้ร่วมงาน: | อัจฉรา ชีวะตระกูลกิจ, อาจารย์ที่ปรึกษา นวลเสน่ห์ วงศ์เชิดธรรม, อาจารย์ที่ปรึกษา ศันสนีย์ เทพปัญญา, อาจารย์ที่ปรึกษา ปาริชาติ มนูทัศน์, 2503- มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สำนักบัณฑิตศึกษา |
คำสำคัญ: | มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สาขาวิชาวิทยาการจัดการ -- วิทยานิพนธ์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. แขนงวิชาบริหารธุรกิจ -- วิทยานิพนธ์ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย การลงทุน -- ไทย |
วันที่เผยแพร่: | 2549 |
สำนักพิมพ์: | มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช |
บทคัดย่อ: | การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ (1) เพื่อศึกษาปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อพฤติกรรมการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่ง ประเทศไทยของบริษัทจดทะเบียน (2) เพื่อศึกษาพฤติกรรมการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยของบริษัทจดทะเบียน (3) เพื่อเปรียบเทียบความแตกต่างของพฤติกรรม ด้านการลงทุน มูลค่าการลงทุน และจำนวนหลักทรัพย์ที่เลือกลงทุนจำแนกตามข้อมูลทั่วไปของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ผู้วิจัยใช้แบบสอบถามเป็นเคื่รองมือในการวิจัยกับบริษัทจดทะเบียน 397 บริษัท คิดเป็นร้อยละ 92.75 ของ บริษัทจดทะเบียน ทั้งสิ้น 428 บริษัท ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2548 ไม่นับรวมบริษัทที่อยู่ในกลุ่มฟื้นฟูกิจการ สถิติที่ใช้ในการ วิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน ในการศึกษาข้อมูลทั่วไปของบริษัทจดทะเบียน พบว่ากลุ่มอสังหาริมทรัพย์และะก่อสร้างมีจำนวนมากที่สุด และบริษัทส่วนใหญ่มีทุนจดทะเบียนต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท มีระยะเวลาจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ 11-15 ปี มีโครงสร้างผู้ถือหุ้นรายย่อย 20-40 % และมีโครงสร้างผู้ถือหุ้นต่างชาติต่ำกว่า 10% และผลจากการวิจัยพบว่า (1) ปัจจัย ที่มีอิทธิพลต่อพฤติกรรมการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยของบริษัทจดทะเบียน คือภาวะอุตสาหกรรม ภาวะการเมือง และน้อยที่สุด คือ ปัจจัยด้านสิทธิพิเศษทางภาษี โดยรายละเอียดบริษัทจดทะเบียนให้ความสำคัญมากที่สุด กับปัจจัยด้านภาวะหลักทรัพย์ ได้แก่ อัตราผลตอบแทน อัตราการเจริญเติบโตของบริษัท สำหรับปัจจัยอุตสาหกรรม ได้แก่ ปัจจัย ที่มีผลกระทบต่ออุตสาหกรรม สภาวะการแข่งขันในอุตสาหกรรม ปัจจัยด้านภาวะเศรษฐกิจ ได้แก่ อัตราการ เจริญเติบโตของเศรษฐกิจ อัตราดอกเบี้ย ส่วนปัจจัยด้านการเมือง ได้แก่ นโยบายของรัฐบาล (2) พฤติกรรมการลงทุน โดยรวมพบว่าบริษัทจดทะเบียนส่วนใหญ่ร้อยละ 53.9 ไม่ลงทุนในตลาดหลักทรัพย์มีสาเหตุ คือ นโยบายและกฎระเบียบ บริษัท และไม่ต้องการแบกรับความเสี่ยง โดยไม่แน่ใจว่าอนาคตจะลงทุน แต่สำหรับบริษัทที่ลงทุน ซึ่งมีร้อยละ 46.1 ได้ให้ เหตุผลที่ลงทุน คือ นโยบายบริษัทและมีเงินออมเหลือ โดยมีวัตถุประสงค์หลัก คือผลตอบแทนด้วยตัวเงิน รองลงมาคือเพื่อ การผนึกกำลังทางธุรกิจ ส่วนใหญ่ลงทุนด้วยตนเองจากกำไรสะสม ลงทุนด้วยมูลค่าต่ำกว่า 5% ของสินทรัพย์สุทธิ และ ลงทุนในหลักทรัพย์ 1-5 ประเภท ในธุรกิจที่ต่างประเภทโดยสิ้นเชิงมากที่สุด ส่วนใหญ่ถือครองหลักทรัพย์มากกว่า 2 ปี และเป็นผู้ถือหุ้นรายย่อย และ บริษัทจดทะเบียนพึงพอใจในการลงทุนช่วงปี 2545-2548 (3) เปรียบเทียบพฤติกรรม การลงทุนจำแนกตามข้อมูลทั่วไปของบริษัทจดทะเบียน พบว่ากลุ่มธุรกิจการเงินลงทุนในตลาดหลักทรัพย์มากที่สุดดิดเป็น ร้อยละ 80.6 โดย ร้อยละ 19.4 ไม่ลงทุนในตลาดหลักทรัพย์และกลุ่มสินค้าอุตสาหกรรมลงทุนน้อยที่สุดร้อยละ 20 บริษัท ที่มีทุนจดทะเบียนมากกว่า 20,000 ด้านบาทลงทุนมากที่สุดร้อยละ 70.6 บริษัทที่มีระยะเวลาจดทะเบียนในตลาด หลักทรัพย์มากกว่า 15 ปี ลงทุนมากที่สุดร้อยละ 63.3 บริษัทที่มีโครงสร้างผู้ถือหุ้นรายย่อยกว่า 60% ลงทุนมากที่สุด ร้อยละ 56.4 และบริษัทที่มีโครงสร้างผู้ถือหุ้นต่างชาติ 16-25% ลงทุนมากที่สุดร้อยละ 55.6 |
URI: | https://ir.stou.ac.th/handle/123456789/8063 |
ปรากฏในกลุ่มข้อมูล: | Manage-Theses |
รายการนี้ได้รับอนุญาตภายใต้ Creative Commons License