การศึกษาการพัฒนาสมรรถนะของข้าราชการสาย ข. และ ค.ตามหลักสมรรถนะ : ศึกษากรณีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตบางเขน กรุงเทพมหานคร

Abstract

การวิจัขครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) เพื่อศึกษาการพัฒนาสมรรถนะของข้าราชการสาย ข. และ ค. (สายสนับสนุน) ในด้านวิธีการฝึกอบรมการพัฒนา การศึกษาและเทดนิคที่จำเป็นต่อการปฏิบัติราชการ (2) เพื่อสำรวจความคิดเห็นและข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการพัฒนาสมรรถนะ กลุ่มตัวอย่าง จำนวน 278 คน ใช้วิธีสุ่ม ตัวอย่างแบบง่าย เครื่องมือที่ใช้เป็นแบบสอบถาม สถิติที่ใช้วิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่kร้อยละ ค่าเฉลี่ย (x) ส่วน เบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) การวิเคราะห์ความแปรปรวน (One Way ANOVA) t-test ที่ระดับนัยสำคัญระดับ 0.05 ทดสอบความแตกต่างเป็นรายคู่ด้วยวิธีการของเชฟเฟ่ (Scheffe's Procedure) และหาค่าความสัมพันธ์ Chi- Square โดยใช้โปรแกรมสำเร็ จรูปประมวลผลข้อมูล ผลการวิจัยพบว่า โดยภาพรวม (1) การพัฒนาสมรรถนะหลัก (Core Competency) และการพัฒนาสมรรถนะประจำกลุ่มงาน (Functional Competency) มีการพัฒนาอยู่ในระตับมาก (2) การพัฒนาสมรรถนะหลักโดยการฝึกอบรมด้านทักษะการจัดการ เทคนิคการตัดสินใจ ภาวะผู้นำและการถูงใจ การพัฒนาสมรรถนะหลักโดยกรพัฒนาด้วยวิธีการพัฒนาตนเอง การเรียนรู้ตนเอง และการพัฒนาสมรรถนะหลัก โดยวิธีการศึกษาด้วยวิธีการศึกษาในระบบ (3) การพัฒนาสมรรถนะประจำกลุ่มงานโดยการฝึกอบรมด้านการสร้างสถานการณ์จำลอง การแสดงบทบาทสมมติ การสาธิต และการดูงานนอกสถานที่ การพัฒนาสมรรถนะประจำกลุ่มงานโดยการพัฒนาด้านสมรรถนะในการทำงานโดยการอบรมการพัฒนาด้วยตนเองหรือผู้บังคับบัญชาการหมุนเวียนงาน การสอนงาน การมอบหมายงานหรือโครงการ ให้รับผิดชอบ และการพัฒนาสมรรถนะประจำกลุ่มงานโดยการศึกษาด้านการศึกษาการจัดสภาพแวคล้อมเพื่อการพัฒนาสมรรถนะบุดลากร วัสดุอุปกรณ์ เครื่องมือ และสถานที่ในการปฏิบัติงาน (4) ข้อเสนอเนะเกี่ยวกับประเภทการพัฒนาสมรรถนะนั้น ด้านสมรรถนะหลัก พบว่า การมุ่งผลสัมฤทธิ์ ความมุ่งมั่นจะปฏิบัติราชการให้ดีหรือเกินมาตรฐาน ด้าน สมรรถนะประจำกลุ่มงาน พบว่า การคิดวิเคราะห์ สำหรับข้อเสนอแนะเกี่ยวกับวิธีการพัฒนาสมรรถนะพบว่า กลุ่มตัวอย่างต้องการให้มีการเพิ่มพูนความรู้และทักษะให้ตรงกับงานและเสริมสร้างความสามารถเพื่อเพิ่ม ศักยภาพของบุคลากรโดยการฝึกอบรม อนึ่ง กลุ่มตัวอย่างต้องการให้มีการพัฒนาสมรรถนะในทุกด้านเพื่อเพิ่ม ศักยภาพของบุคลากร โดยวิธีการพัฒนา นอกจากนี้กลุ่มตัวอย่างยังต้องการให้มีการ ให้โอกาสในการศึกษาหา ความรู้เพิ่มเติมเพื่อเพิ่มศักยภาพของบุคลากร โดยวิธีการศึกษา