ส่วนประสมการตลาดที่มีอิทธิพลต่อพฤติกรรมการซื้อเสื้อผ้าแฟชั่นสตรีในเขตกรุงเทพมหานคร

Abstract

การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาส่วนประสมการตลาดที่มีอิทธิพลต่อพฤติกรรม การซื้อเสื้อผ้าแฟชันสตรีในเขตกรุงเทพมหานคร ่ การศึกษาครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงสำรวจ ประชากรที่ใช้ในการศึกษาคือ ผู้หญิงที่อาศัยอยู่ ในเขตกรุงเทพมหานคร กาหนดขนาดกลุ่มตัวอย่างด้วยสูตรของทาโร ยามาเน่ ได้จำนวนทั้งสิ้น 400 คน ใช้วิธีการสุ่มตัวอย่างแบบอาศัยความน่าจะเป็น เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาคือ แบบสอบถาม สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลได้แก่ ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลการศึกษาพบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่ มีรายได้ 20,001-25,000 บาทต่อเดือน ค่าใช้จ่ายเฉลี่ยที่ใช้ในการซื้อ 401-800 บาทต่อเดือน ซื้อเสื้อผ้าที่มีราคา 201-300 บาทต่อชิ้น ประเภทของเสื้อผ้าที่เลือกซื้อได้แก่ เสื้อยืดทีเชิ๊ต/เสื้อยืด ได้รับข้อมูลข่าวสารจากการเดินดูตามร้าน ขายเสื้อผ้าด้วยตนเอง และเลือกซื้อเสื้อผ้าเพียงลำพังโดยตัดสินใจเลือกซื้อด้วยตนเอง ซื้อเสื้อผ้าบ่อย ที่สุดในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์เฉลี่ย 2 ครั้งต่อเดือน เหตุผลที่เลือกซื้อเสื้อผ้าในแต่ละครั้งคือ ซื้อตามความจำเป็นและโอกาส และเหตุผลที่เลือกซื้อเสื้อผ้าแต่ละชิ้นคือ เหมาะสมกับรูปร่าง ส่วนใหญ่เคยซื้อเสื้อผ้าที่ร้านขายเสื้อผ้าแฟชั่นทั่วไป โดยไม่มีการวางแผนล่วงหน้าในการซื้อ ตัดสินใจซื้อทันทีที่ พบเสื้อผ้าที่ถูกใจ และเมื่อนำเสื้อผ้าที่ซื้อมาสวมใส่ในครั้งแรกส่วนใหญ่รู้สึกพอใจ/ชอบ และปัจจัยส่วนประสมการตลาดที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อเสื้อผ้าแฟชั่นของสตรีในเขตกรุงเทพมหานคร โดย ภาพรวมมีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก เรียงลำดับ ดังนี้ ผลิตภัณฑ์คือ คุณภาพ ความทนทาน มีรูปแบบ ให้เลือกหลากหลาย รูปแบบไม่ล้าสมัยเร็ว ด้านราคาคือ สามารถต่อรองราคาได้ มีป้ายราคาบอกชัดเจน ราคาถูก ด้านการจัดจำหน่ายคือ สถานที่จำหน่ายสะดวกในการเดินทาง หาง่าย มีการจัดแสดงหน้าร้าน สวยงาม ด้านการส่งเสริมการตลาดคือ พนักงานขายมีอัธยาศัยดี การพูดจาดี สินค้าลดราคา มีบริการ ลองสวมใส่เสื้อผ้าแฟชั่น