กรุณาใช้ตัวระบุนี้เพื่ออ้างอิงหรือเชื่อมต่อรายการนี้:
https://ir.stou.ac.th/handle/123456789/8296
ชื่อเรื่อง: | การบริหารสุขภาพบุคลากรการท่าเรือแห่งประเทศไทย |
ชื่อเรื่องอื่นๆ: | Integrated health programmes for staffs and employess of the Port Authority of Thailand |
ผู้แต่ง/ผู้ร่วมงาน: | กิ่งพร ทองใบ, อาจารย์ที่ปรึกษา สาวภา มีถาวรกลุ, อาจารย์ที่ปรึกษา ธีรชาติ สว่างนพ, 2498- มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สำนักบัณฑิตศึกษา |
คำสำคัญ: | การท่าเรือแห่งประเทศไทย -- พนักงาน -- สุขภาพและอนามัย มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สาขาวิชาวิทยาการจัดการ -- วิทยานิพนธ์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. แขนงวิชาบริหารธุรกิจ -- วิทยานิพนธ์ |
วันที่เผยแพร่: | 2549 |
สำนักพิมพ์: | มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช |
บทคัดย่อ: | การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) ศึกษาสภาพและลักษณะการบริหารสุขภาพ บุคลากรการท่าเรือแห่งประเทศไทย (2) ศึกษาทัศนคติของบุคลากรการท่าเรือแห่งประเทศไทยที่มี ต่อโครงการบริหารสุขภาพที่สำนักแพทย์และอนามัยกำหนดขึ้น (3) เสนอแนะแนวทางในการ บริหารสุขภาพให้สอดคล้องกับความต้องการของบุคลากรการท่าเรือแห่งประเทศไทย กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ประกอบด้วยบุคลากรการท่าเรือแห่งประเทศไทย จำนวน 346 คน จากจำนวนประชากรทั้งหมด 3440 คน เก็บรวบรวมข้อมูลโดยใช้แบบสอบถามและรวบรวมนำมา วิเคราะห์ประมวลผลด้วยโปรแกรมสำเร็จรูป โดยใช้สถิติในการวิจัยเชิงพรรณนา คือ ค่าเฉลี่ย ค่า ร้อยละ และสถิติอนุมาน คือการทดสอบแบบที แบบเอฟ และการวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว และการทดสอบรายคู่แบบ LSD ทดสอบกรณีที่มีความแปรปรวนแตกต่างกัน ผลการวิจัยพบว่า (1) บุคลากรส่วนใหญ่มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับนโยบายสุขภาพ ในระดับปานกลาง (2) ทัศนคติต่อโครงการบริหารสุขภาพที่สำนักแพทย์และอนามัยจัดทุกโครงการ อยู่ในระดับสูงมาก (3) ภูมิหลังของบุคลากรในเรื่องระดับการศึกษา และอัตราเงินเดือน ที่แตกต่าง กันมีผลต่อทัศนคติต่อโครงการบริหารสุขภาพที่แตกต่างกันบางโครงการ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ที่ระดับ 0.05 ส่วนภูมิหลังด้านอื่นๆ ไม่มีผลกับทัศนคติ (4) บุคลากรที่มีระดับความรู้เกี่ยวกับ นโยบายบริหารสุขภาพที่แตกต่างกันจะมีความสัมพันธ์กับทัศนคติของบุคลากรต่อโครงการบริหาร สุขภาพที่ แตกต่างกันทุกโครงการอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 ยกเว้นโครงการสุขภาพ ตามสายกับโครงการลดไขมันในเลือด ข้อเสนอแนะ (1) จัดให้มีชั่วโมงที่จะพัฒนาด้านสุขศึกษา และพลศึกษา เพื่อดูแลสุขภาพตนเองและครอบครัวควบคู่กับความรู้ในด้านการปฏิบัติงาน (2) บุคลากรมีความสนใจในสุขภาพตนเองเป็นจำนวนมากควรที่จะนำโครงการเกี่ยวกับสุขภาพมา เสนอบุคลากรมากขึ้น ทำให้บุคลากรมีความรู้ความเข้าใจเรื่องสุขภาพมากขึ้น (3) จัดให้มีสถานีออก กำลังกายเพื่อแนะนำการออกกำลังกายที่ถูกต้อง และแนะนำทักษะในการเล่นกีฬา สร้างสุขภาพให้ แข็งแรง (4) เสนอให้ความรู้ด้านสุขภาพในสารสัมพันธ์ (5) การมีสถานีออกกำลังกาย จัดให้เป็น สวัสดิการ หรือให้เสียค่าใช้จ่ายน้อย |
URI: | https://ir.stou.ac.th/handle/123456789/8296 |
ปรากฏในกลุ่มข้อมูล: | Manage-Theses |
รายการนี้ได้รับอนุญาตภายใต้ Creative Commons License