กรุณาใช้ตัวระบุนี้เพื่ออ้างอิงหรือเชื่อมต่อรายการนี้:
https://ir.stou.ac.th/handle/123456789/9042
ชื่อเรื่อง: | ดุลพินิจการสั่งไม่ฟ้องของพนักงานอัยการกรณีอากาศยานต่างประเทศขนอาวุธเข้ามาลงในประเทศไทย |
ชื่อเรื่องอื่นๆ: | Statement did not sue the prosecutor's discretion a case study of the foreign aircraft carrying weapons into the country |
ผู้แต่ง/ผู้ร่วมงาน: | ธวัชชัย สุวรรณพานิช ธัมมศักดิ์ ปิยะ, 2506- มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สาขาวิชานิติศาสตร์ |
คำสำคัญ: | มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สาขาวิชานิติศาสตร์--การศึกษาเฉพาะกรณี มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. วิชาเอกกฎหมายอาญาและกระบวนการยุติธรรม--การศึกษาเฉพาะกรณี อัยการ--ไทย กระบวนการยุติธรรมทางอาญา ดุลยพินิจ |
วันที่เผยแพร่: | 2558 |
สำนักพิมพ์: | มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช |
บทคัดย่อ: | การศึกษาค้นคว้าอิสระเรื่องดุลพินิจการสั่งไม่ฟ้องของพนักงานอัยการ กรณีอากาศยานต่างประเทศ ขนอาวุธเข้ามาลงในประเทศไทย มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาวิเคราะห์ถึงดุลพินิจการสั่งไม่ฟ้องของพนักงานอัยการ กรณีอากาศยานต่างประเทศขนอาวุธเข้ามาลงในประเทศไทย พบว่าอำนาจสั่งไม่ฟ้องของพนักงานอัยการ จำเป็นต้องมีการตรวจสอบ โดยเฉพาะคดีที่มีผลกระทบต่อความปลอดภัยและความมั่นคงของชาติ การศึกษาค้นคว้าอิสระนี้ เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพ ด้วยวิธีการวิจัยทางเอกสาร จากการศึกษาค้นคว้า ตำรา บทความ ผู้ศึกษาทำการศึกษากฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง โดยการวิเคราะห์ปัญหาเกี่ยวกับการที่พนักงานอัยการใช้ดุลพินิจสั่งไม่ฟ้องคดี เพื่อนำไปสู่การปรับปรุง แก้ไข เพี่มเติม กฎหมาย ระเบียบต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ผลจากการศึกษาพบว่า 1) ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2550 กำหนดว่าการอำนวยความยุติธรรม การรักษาผลประโยชน์ของรัฐ การล้มครองสิทธิเสรีภาพของประชาชน การดำเนินคดีแก่บุคคลที่กระทำความผิดทางอาญา ต้องมีกฎหมายบัญญัติให้สามารถกระทำได้ในประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 143 ให้อำนาจพนักงานอัยการมีอำนาจหน้าที่ในการฟ้องคดีอาญา 2) การใช้ดุลพินิจของพนักงานอัยการ ในการสั่งไม่ฟ้องคดีอาญา จำเป็นต้องได้รับการตรวจสอบ มิฉะนั้นอาจเป็นการใช้อำนาจตามอำเภอใจ 3) การฟ้องคดีที่มีผลกระทบต่อผลประโยชน์อันสำคัญของชาติ พนักงานอัยการยึดถือปฏิบัติตามระเบียบว่าต้วยการดำเนิน คดีอาญา พ.ศ.2528 และแก้ไขเพึ่มเติม ระเบียบสำนักงานอัยการสูงสุด พ.ศ. 2554 ดังนั้นเห็นควรให้มีการตั้ง คณะกรรมการขึ้นมาร่วมพิจารณาในการสั่งคดี โดยมีหน่วยงานร่วมเป็นคณะกรรมการคือ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานอัยการสูงสุด สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ กระทรวงการต่างประเทศ และรัฐบาลโดยมติคณะรัฐมนตรี |
URI: | https://ir.stou.ac.th/handle/123456789/9042 |
ปรากฏในกลุ่มข้อมูล: | Law-Independent study |
แฟ้มในรายการข้อมูลนี้:
แฟ้ม | รายละเอียด | ขนาด | รูปแบบ | |
---|---|---|---|---|
Fulltext_149642.pdf | เอกสารฉบับเต็ม | 10.83 MB | Adobe PDF | ดู/เปิด |
รายการนี้ได้รับอนุญาตภายใต้ Creative Commons License