Please use this identifier to cite or link to this item:
https://ir.stou.ac.th/handle/123456789/9524
Title: | ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการปฏิบัติการการแพทย์ฉุกเฉิน ตามมาตรฐานความปรกติใหม่ ในจังหวัดเชียงราย |
Other Titles: | Factors affecting emergency medical service operations according to the new normal standards in Chiang Rai Province |
Authors: | นิตยา เพ็ญศิรินภา เกรียงศักดิ์ ปินตาธรรม, 2528- มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สำนักบัณฑิตศึกษา เอกพล กาละดี |
Keywords: | มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สาขาวิชาวิทยาศาสตร์สุขภาพ--วิทยานิพนธ์ บริการเวชศาสตร์ฉุกเฉิน--ไทย--เชียงราย--มาตรฐาน. |
Issue Date: | 2564 |
Publisher: | มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช |
Abstract: | การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา (1) การปฏิบัติการด้านการแพทย์ฉุกเฉินตามมาตรฐานความปรกติใหม่ (2) ปัจจัยด้านบุคคลของผู้ปฏิบัติงานและปัจจัยด้านองค์การ (3) อิทธิพลของปัจจัยด้านบุคคลของผู้ปฏิบัติงาน และปัจจัยด้านองค์การ ต่อการปฏิบัติการการแพทย์ฉุกเฉินฯ และ (4) ปัญหาและข้อเสนอแนะในมุมมองของผู้ปฏิบัติงานการแพทย์ฉุกเฉินฯ ในจังหวัดเชียงราย การวิจัยเป็นแบบสำรวจเชิงวิเคราะห์ ประชากรที่ศึกษา คือ ผู้ปฏิบัติงานในระบบการแพทย์ฉุกเฉิน จังหวัดเชียงราย จำนวน 2,504 คน กลุ่มตัวอย่างที่คำนวณได้ 300 คน ได้จากการสุ่มแบบแบ่งชั้นตามประเภทของผู้ปฏิบัติงาน เครื่องมือวิจัย คือ แบบสอบถามความเที่ยงระหว่าง 0.70-0.92 วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติเชิงพรรณนาและการวิเคราะห์การถดถอยเชิงพหุคูณ ผลการวิจัยพบว่า (1) การปฏิบัติงานด้านการแพทย์ฉุกเฉินตามมาตรฐานความปรกติใหม่ ในจังหวัดเชียงราย อยู่ในระดับปฏิบัติทุกครั้ง (2) ปัจจัยส่วนบุคคล พบว่าผู้ปฏิบัติงานส่วนใหญ่เป็นเพศชาย จบการศึกษาปริญญาตรี ตำแหน่งอาสาสมัครปฏิบัติการฉุกเฉินการแพทย์ สังกัดโรงพยาบาล ทํางานหน่วยปฏิบัติการฉุกเฉินระดับพื้นฐาน ค่ามัธยฐานของอายุ 30 ปี ประสบการณ์การทํางาน 5 ปี ภาระงาน 50 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ส่วนปัจจัยด้านองค์การ ได้แก่ การวางแผนองค์การ การจัดการองค์การ การจัดการด้านบุคลากร การควบคุมสั่งการ การประสานงาน การรายงานการจัดการงบประมาณ การสนับสนุนการสื่อสารและการจัดการสารสนเทศ อยู่ในระดับมาก (3) ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการปฏิบัติการการแพทย์ฉุกเฉินตามมาตรฐานความปรกติใหม่ ในจังหวัดเชียงราย มี 8 ตัวแปร เรียงจากอิทธิพลเชิงบวกจากมากไปน้อย ได้แก่ ความสามารถและทักษะในการดูแลผู้ป่วย ปัจจัยองค์การด้านการวางแผนองค์การด้านการรายงาน ด้านการจัดการ ด้านสารสนเทศ ด้านการสนับสนุน ด้านการสื่อสาร และปัจจัยส่วนบุคคลเพศหญิง ตามลำดับ ส่วนปัจจัยองค์การด้านการจัดการงบประมาณมีอิทธิพลเชิงลบ โดยร่วมกันทำนายคะแนนการปฏิบัติการการแพทย์ฉุกเฉินตามมาตรฐานความปรกติใหม่ได้ ร้อยละ 65.6 และ (4) ปัญหาในมุมมองของผู้ปฏิบัติที่สําคัญ คือ ขาดการสนับสนุนที่จำเป็นสำหรับการปฏิบัติงานและการเข้าไม่ถึงการอบรม จึงเสนอแนะให้องค์การสนับสนุนอุปกรณ์ที่จําเป็นให้เพียงพอ และกระจายการอบรมให้ทั่วถึง |
Description: | วิทยานิพนธ์ (ส.ม.(สาธารณสุขศาสตร์))--มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช, 2564 |
URI: | https://ir.stou.ac.th/handle/123456789/9524 |
Appears in Collections: | Health-Theses |
Files in This Item:
File | Description | Size | Format | |
---|---|---|---|---|
FULLTEXT.pdf | เอกสารฉบับเต็ม | 16.25 MB | Adobe PDF | View/Open |
This item is licensed under a Creative Commons License