Please use this identifier to cite or link to this item:
https://ir.stou.ac.th/handle/123456789/9758
Title: | การเป็นองค์การแห่งการเรียนรู้ของสำนักการคลัง กรมธนารักษ์ |
Other Titles: | Learning organization of Finance Bureau under the Treasury Department |
Authors: | ศรีธนา บุญญเศรษฐ์ นราทิวัฒณ์ รินลาด, 2524- มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สาขาวิชาวิทยาการจัดการ |
Keywords: | มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สาขาวิชาวิทยาการจัดการ--การศึกษาเฉพาะกรณี มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. แขนงวิชาบริหารธุรกิจ--การศึกษาเฉพาะกรณี การเรียนรู้องค์การ การศึกษาอิสระ--บริหารธุรกิจ |
Issue Date: | 2559 |
Publisher: | มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช |
Abstract: | การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) ศึกษาระดับการเป็นองค์การแห่งการเรียนรู้ของสำนักการคลัง กรมธนารักษ์ (2 เปรียบทียบการเป็นองค์การแห่งการเรียนรู้ของสำนักการคลังกรมธนารักษ์ ตามการรับรู้ของบุคลากร จำแนกตามลักษณะส่วนบุคคล และ (3) เสนอแนะแนวทางในการพัฒนาองค์การแห่งการเรียนรู้ของสำนักการคลัง กรมธนารักษ์การศึกษาครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงสำรวจ ประชากรคือ บุคลากรสำนักการคลัง กรมธนารักษ์จำนวน 85 คน กำหนดกลุ่มตัวอย่างด้วยการคำนวณ ได้กลุ่มตัวอย่างจำนวน 71 คน ใช้วิธีสุ่มตัวอย่าง แบบชั้นภูมิ และใช้แบบสอบถามเป็นเครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูล สถิติที่ ใช้ในการวิเคราะห์ ข้อมูล ได้แก่ ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ยส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบค่าที และการวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียวผลการศึกษาพบว่า (1) ระดับการเป็นองค์การแห่งการเรียนรู้ของสำนักการคลังกรมธนารักษ์โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด เมื่อพิจารณารายด้าน พบว่าการจัดการความรู้อยู่ในระดับมากที่สุด รองลงมาอยู่ในระดับมากที่สุดคือ ด้านการสร้งพลวัดแห่งการเรียนรู้ ด้านการปรับเปลี่ยนองค์การ และอยู่ในระดับมากคือ ด้านการเอื้ออำนาจแก่บุคลากรและบุคคลภายนอก การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศตามลำดับ (2) บุคลากรที่มีลักษณะส่วนบุคคลแตกต่างกัน ได้แก่ เพศ อายุ ระดับการศึกษา ตำแหน่งหน้าที่หน่วยงานที่สังกัดฝ่าย และระยะเวลาในการทำงาน มีการรับรู้การเป็นองค์การแห่งการเรียนรู้ของสำนักการคลัง กรมธนารักษ์ไม่แตกต่างกันทั้งโดยรวมและรายด้าน และ (3) แนวทางในการพัฒนาองค์การแห่งการเรียนรู้ของสำนักการคลัง กรมธนารักษ์ ในด้านการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ คือ ควรหาเทคโนโลยีที่ ทันสมัยมาใช้ในการปฏิบัติงานอย่างต่อเนื่อง มีการใช้คอมพิวเตอร์ในการประสานงานกับหน่วยงานในพื้นที่ต่งจังหวัดแบบทันเวลา เพื่อให้เกิดความสะดวกและรวดเร็วในกรรับ-ส่งข้อมูล และด้านการเอื้ออำนาจแก่บุคลากรและบุคคลภายนอก คือ กวรสนับสนุนให้ทีมงาน หรือส่วนงานมีสิทธิเท่าเทียมกันในการมอบหมายงานในแต่ละครั้ง และส่งสริมให้บุคคลภายนอกมีส่วนร่วมในการเรียนรู้ขององค์การ |
URI: | https://ir.stou.ac.th/handle/123456789/9758 |
Appears in Collections: | Manage-Independent study |
Files in This Item:
File | Description | Size | Format | |
---|---|---|---|---|
Fulltext_154747.pdf | เอกสารฉบับเต็ม | 3.31 MB | Adobe PDF | View/Open |
This item is licensed under a Creative Commons License