Please use this identifier to cite or link to this item: https://ir.stou.ac.th/handle/123456789/9949
Title: แรงจูงใจด้านผลตอบแทนกับความจงรักภักดีของบุคลากรสายวิชาการมหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา
Other Titles: Compensation motivation and loyalty of academic staff of Nakhon Ratchasima Rajabhat University
Authors: กิ่งพร ทองใบ
สมฤทัย สิงห์ประสาท
มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สาขาวิชาวิทยาการจัดการ
Keywords: มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. แขนงวิชาบริหารธุรกิจ--การศึกษาเฉพาะกรณี
มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สาขาวิชาวิทยาการจัดการ--การศึกษาเฉพาะกรณี
มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา--การบริหารงานบุคคล
มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา--ข้าราชการและพนักงาน--เงินเดือน
การจูงใจในการทำงาน
ความผูกพันต่อองค์การ
การบริหารค่าตอบแทน
การศึกษาอิสระ--บริหารธุรกิจ
Issue Date: 2558
Publisher: มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช
Abstract: การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา 1) ระดับแรงจูงใจด้านผลตอบแทนของบุคลากรสายวิชาการมหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา 2) ระดับความจงรักภักดีต่อองค์กรของบุคลากรสายวิชาการ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา และ 3) ความสัมพันธ์ระหว่างแรงจูงใจด้านผลตอบแทนกับความจงรักภักดีต่อองค์กรของบุคลากรสายวิชาการมหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา การวิจัยนี้เป็นการวิจัยเชิงสํารวจ โดยใช้แบบสอบถามเป็นเครื่องมือ เก็บรวบรวมข้อมูลจากบุคลากรสายวิชาการ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา จํานวน 615 คน กลุ่มตัวอย่าง จํานวน 242 คน จากการใช้สูตรยามาเน่ ประกอบด้วยข้าราชการ จํานวน 67 คน ลูกจ้างชั่วคราว จํานวน 8 คน และพนักงานในสถาบันอุดมศึกษา จํานวน 167 คน โดยการสุ่มกลุ่มตัวอย่างแบบชั้นภูมิ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ การวิเคราะห์สถิติเชิงพรรณนา (Descriptive Statistics) คือ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และทดสอบสมมติฐานด้วยสถิติสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์แบบสเปียร์แมน ผลการวิจัยพบว่า ผลการวิเคราะห์ข้อมูลเกี่ยวกับแรงจูงใจด้านผลตอบแทนของบุคลากร โดยรวมแล้วกลุ่มตัวอย่างมีแรงจูงใจในด้านผลตอบแทน อยู่ในระดับมาก โดยมีค่าเฉลี่ย เท่ากับ 3.77 ผลการวิเคราะห์ข้อมูลเกี่ยวกับความจงรักภักดีต่อองค์กร โดยรวมแล้วกลุ่มตัวอย่างมีความจงรักภักดีต่อองค์กรในระดับมาก โดยมีค่าเฉลี่ย เท่ากับ 4.06 การวิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่างแรงจูงใจด้านผลตอบแทนโดยรวมกับ ความ จงรัก ภักดี ต่อองค์กรโดยรวม พบว่ามีค่า Sig. เท่ากับ 0.943 จึงมีความสัมพันธ์กันอย่างมีนัยสําคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 และมีความสัมพันธ์ในทิศทางเดียวกันในระดับมากที่สุด
URI: https://ir.stou.ac.th/handle/123456789/9949
Appears in Collections:Manage-Independent study

Files in This Item:
File Description SizeFormat 
150177.pdfเอกสารฉบับเต็ม12.29 MBAdobe PDFView/Open


This item is licensed under a Creative Commons License Creative Commons