กรุณาใช้ตัวระบุนี้เพื่ออ้างอิงหรือเชื่อมต่อรายการนี้: https://ir.stou.ac.th/handle/123456789/13894
ชื่อเรื่อง: ความต้องการการส่งเสริมการผลิตผ้าไหมไทยตรานกยูงพระราชทานของเกษตรกรในจังหวัดสุรินทร์
ชื่อเรื่องอื่นๆ: Extension needs of Thai silk production of The Royal Peacock Logo of farmer in Surin Province
ผู้แต่ง/ผู้ร่วมงาน: พลสราญ สราญรมย์
สุกัญญา สังขศรี, 2534-
มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สำนักบัณฑิตศึกษา
จินดา ขลิบทอง
คำสำคัญ: มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สาขาวิชาเกษตรศาสตร์และสหกรณ์--วิทยานิพนธ์
มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. วิชาเอกส่งเสริมและพัฒนาการเกษตร--วิทยานิพนธ์
ผ้าไหมไทย--การผลิต
วันที่เผยแพร่: 2564
สำนักพิมพ์: มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช
บทคัดย่อ: การวิจัยนี้วัตถุประสงค์เพื่อศึกษา 1) สภาพพื้นฐานทางสังคม เศรษฐกิจ ของเกษตรกร 2) ความรู้เกี่ยวกับข้อกำหนด/หลักเกณฑ์การผลิตผ้าไหมตามมาตรฐานตรานกยูงพระราชทาน 3) ความต้องการการส่งเสริมการผลิตผ้าไหมไทยตรานกยูงพระราชทาน 4) ปัญหาในการส่งเสริมการผลิตผ้าไหมตรานกยูงพระราชทาน ประชากรที่ศึกษา คือ เกษตรกรที่เป็นสมาชิกผู้ผลิตผ้าไหมไทยตรานกยูงพระราชทาน ที่ยื่นคำขอการรับรองและการตรวจประเมินมาตรฐานผลิตภัณฑ์ผ้าไหมไทย ปีงบประมาณ 2564 จังหวัดสุรินทร์ จำนวน 1,010 คน กำหนดขนาดกลุ่มตัวอย่างโดยใช้สูตรของทาโร ยามาเน ที่ระดับความคลาดเคลื่อน 0.08 ได้จำนวนกลุ่มตัวอย่าง 136 คน โดยวิธีการสุ่มแบบง่าย เครื่องมือที่ใช้เก็บข้อมูลคือแบบสัมภาษณ์ วิเคราะห์ข้อมูลด้วย ค่าความถี่ ร้อยละ ค่าต่ำสุด ค่าสูงสุด ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการจัดอันดับ ผลการศึกษา พบว่า 1) เกษตรกรร้อยละ 94.1 เป็นเพศหญิง อายุเฉลี่ย 52.21 ปี ร้อยละ 57.4 จบการศึกษาระดับประถมศึกษา จำนวนสมาชิกในครัวเรือน เฉลี่ย 3.98 คน ประสบการณ์ในการประกอบอาชีพหม่อนไหม เฉลี่ย 18.61 ปี ได้รับการฝึกอบรม เฉลี่ย 1.83 ครั้ง จำนวนแรงงานด้านหม่อนไหมเฉลี่ย 1.46 คน รายได้ภาคการเกษตร เฉลี่ย 90,244.72 บาทต่อปี และรายได้จากการประกอบอาชีพหม่อนไหม เฉลี่ย 39,029.41 บาทต่อปี 2) เกษตรกรมีความรู้เกี่ยวกับข้อกำหนด/หลักเกณฑ์การผลิตผ้าไหมตามมาตรฐานตรานกยูงพระราชทานในระดับมาก ส่วนข้อกำหนดที่เกษตรกรมีความรู้น้อย คือ ประเด็นเรื่องความสม่ำเสมอของสี และความสม่ำเสมอของลวดลายผ้า 3) เกษตรกรมีปัญหาในการส่งเสริมการผลิตผ้าไหมไทยตรานกยูงพระราชทานภาพรวมในระดับปานกลาง โดยมีปัญหาระดับมาก 1 ประเด็น ได้แก่ ด้านการสนับสนุน และปัญหาระดับปานกลาง 2 ประเด็น คือ ด้านความรู้ และด้านวิธีการส่งเสริม 4) ในภาพรวมเกษตรกรมีความต้องการด้านวิธีการส่งเสริมแบบกลุ่มในระดับมาก ความต้องการด้านความรู้ในระดับมาก 6 ประเด็น คือ ด้านการฟอกและการย้อมสี ด้านการออกแบบลวดลายและการมัดหมี่ ด้านการทอ ด้านการสาวไหม ด้านการปลูกหม่อนเลี้ยงไหม และด้านการจำหน่าย/ช่องทางการตลาด เกษตรกรมีความต้องการด้านการสนับสนุนในระดับมาก 2 ประเด็น คือ ด้านปัจจัยการผลิต และด้านแหล่งเงินทุน
รายละเอียด: วิทยานิพนธ์ (กษ.ม. (ส่งเสริมและพัฒนาการเกษตร))--มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช, 2564
URI: https://ir.stou.ac.th/handle/123456789/13894
ปรากฏในกลุ่มข้อมูล:Agri-Theses

แฟ้มในรายการข้อมูลนี้:
แฟ้ม รายละเอียด ขนาดรูปแบบ 
FULLTEXT.pdfเอกสารฉบับเต็ม12.21 MBAdobe PDFดู/เปิด


รายการนี้ได้รับอนุญาตภายใต้ Creative Commons License Creative Commons