Please use this identifier to cite or link to this item:
https://ir.stou.ac.th/handle/123456789/10646
Title: | การดำเนินคดีอาญากับผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองและเจ้าหน้าที่ของรัฐตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต |
Other Titles: | Criminal proceedings with the persons holding political position and the public officers in accordance with anti-corruption law |
Authors: | ภาณินี กิจพ่อค้า พงศ์พันธุ์ พบสุวรรณ์, 2528- มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สาขาวิชานิติศาสตร์ |
Keywords: | มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. วิชาเอกกฎหมายอาญาและกระบวนการยุติธรรม --การศึกษาเฉพาะกรณี กระบวนการยุติธรรมทางอาญา การทุจริตและประพฤติมิชอบทางการเมือง นักการเมือง--คดีอาญา การศึกษาอิสระ--กฎหมายอาญาและกระบวนการยุติธรรม |
Issue Date: | 2562 |
Publisher: | มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช |
Abstract: | การศึกษาค้นคว้าอิสระนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาถึงความเป็นมา แนวคิดทฤษฎีในการดำเนินคดีอาญากับผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองและเจ้าหน้าที่ของรัฐ (2) ศึกษากฎหมายที่เกี่ยวกับการดำเนินคดีอาญาของประเทศไทยและของต่างประเทศ (3) วิเคราะห์ปัญหาทางกฎหมายเกี่ยวกับการดำเนินคดีอาญา และ (4) นำผลจากการศึกษาดังกล่าวไปปรับใช้ให้เกิดความเหมาะสมในการดำเนินคดีอาญากับเจ้าหน้าที่ของรัฐและผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง การศึกษาค้นคว้าอิสระนี้เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพด้วยวิธีการวิจัยเอกสารโดยศึกษาค้นคว้าจากแหล่งข้อมูลต่างๆ ได้แก่ กฎหมายอนุสัญญาและระเบียบต่างๆ ที่เกี่ยวข้องตลอดจนหนังสือความเห็นทางกฎหมายวิทยานิพนธ์สารนิพนธ์บทความต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินคดีอาญากับผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองและเจ้าหน้าที่ของรัฐ ผลการศึกษาพบว่า (1) การดำเนินกระบวนการยุติธรรมทางอาญาตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตมีความซ้ำซ้อน เนื่องจากเมื่ออัยการสูงสุดเห็นว่าสำนวนไต่สวนยังไม่สมบูรณ์คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและอัยการสูงสุดต้องตั้งคณะกรรมการร่วมกันเพื่อดำเนินการไต่สวนในข้อไม่สมบูรณ์ดังกล่าวอีกครั้ง (2) การดำเนินกระบวนการยุติธรรมทางอาญาตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในขั้นตอนการฟ้องคดีที่ไม่สอดคล้องกับหลักการของระบบไต่สวน เนื่องจากมีลักษณะแยกอำนาจหน้าที่การสอบสวนและการฟ้องคดีออกจากกัน (3) การฟ้องคดีอาญาตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตเกิดปัญหาในการถ่วงดุลอำนาจ เนื่องจากให้อำนาจคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตเป็นผู้ชี้ขาดว่าจะฟ้องคดีหรือไม่ในกรณีที่อัยการสูงสุดมีความเห็นไม่ฟ้องคดี และ (4) ผู้วิจัยจึงขอเสนอแนะแนวทางแก้ไข โดยกำหนดให้มีตัวแทนจากอัยการสูงสุดเข้าร่วมในการไต่สวนด้วย และควรให้ศาลอาญาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองเป็นผู้ชี้ขาดการฟ้องคดีดังกล่าว |
URI: | https://ir.stou.ac.th/handle/123456789/10646 |
Appears in Collections: | Law-Independent study |
Files in This Item:
File | Description | Size | Format | |
---|---|---|---|---|
161986.pdf | เอกสารฉบับเต็ม | 18.08 MB | Adobe PDF | View/Open |
This item is licensed under a Creative Commons License