Please use this identifier to cite or link to this item: https://ir.stou.ac.th/handle/123456789/10712
Title: การบังคับใช้กฎหมายภาษีมรดกและภาษีการให้
Other Titles: Inheritance and gift taxation enforcement
Authors: วิกรณ์ รักษ์ปวงชน
พันธุ์พงศ์ ปานพูล, 2524-
มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สาขาวิชานิติศาสตร์
Keywords: มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. วิชาเอกกฎหมายธุรกิจ --การศึกษาเฉพาะกรณี
ภาษีมรดก
การศึกษาอิสระ--กฎหมายธุรกิจ
มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สาขาวิชานิติศาสตร์--การศึกษาเฉพาะกรณี
Issue Date: 2561
Publisher: มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช
Abstract: การศึกษาค้นคว้าอิสระนี้ มีวัตถุประสงค์ เพื่อ (1) ศึกษาลักษณะทั่วไป ความหมาย โครงสร้าง แนวคิดในการจัดเก็บ รูปแบบของการจัดเก็บรวมถึงมาตรการการจัดเก็บภาษีมรดกและ ภาษีการให้ของประเทศไทยและต่างประเทศ และ (2) นําความรู้ที่ได้ศึกษามาวิเคราะห์ปัญหาเกี่ยวกบการจัดเก็บภาษีของประเทศไทยเปรียบเทียบกับประเทศอังกฤษและสหรัฐอเมริกา เพื่อเสนอแนะแนวทางในการปรับปรุงแก้ไขกฎหมายเกี่ยวกับการจัดเก็บภาษีการรับมรดกและภาษีการ ให้ของประเทศไทยที่ใช้อยูในปัจจุบันให้มีประสิทธิภาพในการบังคับใช้มากยิ่งขึ้น การศึกษาค้นคว้าอิสระนี้ เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพ ด้วยวิธีการวิจัยเอกสารจากเอกสาร ภาษาไทยและภาษาต่างประเทศ ผู้ศึกษาได้ทําการรวบรวมข้อมูล ค้นคว้า และวิจัย จากหนังสือ ตํารา กฎหมาย บทความ วิทยานิพนธ์ รวมถึงการค้นคว้าทางอินเตอร์เน็ต ด้วยวิธีการเขียนอธิบายและวิเคราะห์ปัญหาเกี่ยวกับการบังคับใช้กฎหมายภาษีมรดกและภาษีการให้ของประเทศไทย ผลการศึกษาพบว่า (1) แนวคิดในการจัดเก็บภาษีมรดกของประเทศไทยและต่างประเทศ โดยหลักมีวัตถุประสงค์เพื่อหารายได้ให้แก่รัฐและลดความเหลื่อมลํ้าในสังคม สําหรับรูปแบบการ จัดเก็บภาษีก็จะแตกต่างกันในแต่ละประเทศ โดยประเทศไทยและอังกฤษจัดเก็บภาษีจากการรับมรดก ส่วนสหรัฐอเมริกาจัดเก็บภาษีจากกองมรดกและ (2) ควรปรับปรุงแก้ไขกฎหมายในเรื่องฐานภาษีที่ปัจจุบันจัดเก็บจากทรัพย์สินที่มีทะเบียน เป็นให้จัดเก็บจากทรัพย์สินทุกประเภท เพื่อป้องกันการหลีกเลี่ยงภาษี ควรจัดเก็บภาษีจากกองมรดก เพื่อความสะดวกและลดรายจ่ายในการบริหาร จัดเก็บ มูลค่าขั้นตํ่าของทรัพย์มรดกที่ได้รับยกเว้น ควรปรับลดลงเพื่อขยายฐานการจัดเก็บและอัตราภาษีที่ใช้อัตราคงที่ ควรจัดเก็บโดยใช้อัตราก้าวหน้า เพื่อให้เป็นไปตามหลักความสามารถในการเสียภาษี นอกจากนี้เพื่อเป็นการส่งเสริมและลดผลกระทบการดําเนินธุรกิจ ควรกำหนดให้มีการยกเว้นการจัดเก็บภาษีสําหรับธุรกิจของครอบครัวหรือธุรกิจขนาดกลางและขนาดยอม
URI: https://ir.stou.ac.th/handle/123456789/10712
Appears in Collections:Law-Independent study

Files in This Item:
File Description SizeFormat 
fulltext.pdfเอกสารฉบับเต็ม13.33 MBAdobe PDFView/Open


This item is licensed under a Creative Commons License Creative Commons