Please use this identifier to cite or link to this item:
https://ir.stou.ac.th/handle/123456789/10716
Title: | ปัญหาเกี่ยวกับการกันบุคคลซึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องในการกระทำความผิดกับเจ้าพนักงานของรัฐไว้เป็นพยาน ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 |
Other Titles: | Problems on granting the immunity from prosecution in exchange for the testimony of the person committing offences with state officer : according to the Organic Act on Anti-Corruption B.E. 256 |
Authors: | ภาณินี กิจพ่อค้า ภูวเนศวร์ คำคุณนา, 2532- มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สาขาวิชานิติศาสตร์ |
Keywords: | มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. วิชาเอกกฎหมายอาญาและกระบวนการยุติธรรม--การศึกษาเฉพาะกรณี พยานบุคคล กฎหมายลักษณะพยาน การศึกษาอิสระ--กฎหมายอาญาและกระบวนการยุติธรรม มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สาขาวิชานิติศาสตร์--การศึกษาเฉพาะกรณี |
Issue Date: | 2561 |
Publisher: | มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช |
Abstract: | การศึกษาค้นคว้าอิสระนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาแนวคิด ทฤษฎี และกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการกันบุคคลซึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องในการกระทำความผิดไว้เป็นพยาน เพื่อศึกษาเปรียบเทียบกฎหมายและหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง และเพื่อศึกษาสภาพปัญหาและวิเคราะห์เปรียบเทียบการกันบุคคลซึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องในการกระทำความผิดไว้เป็นพยานของประเทศไทยและต่างประเทศ และเพื่อศึกษาแนวทางการแก้ไขกฎหมายในการกันบุคคลซึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องในการกระทำความผิดไว้เป็นพยาน ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 การศึกษาค้นคว้าอิสระนี้เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพ ด้วยวิธีการวิจัยทางเอกสาร จากตำรา หนังสือ สารนิพนธ์ วิทยานิพนธ์ เอกสารทางวิชาการ บทความ วารสาร ตัวบทกฎหมาย คำพิพากษาของศาล ข้อมูลจากสื่ออิเล็กทรอนิกส์ และเอกสารอื่นที่เกี่ยวข้อง ผลการศึกษาพบว่า ปัญหาที่เกิดจากการนำมาตรการกันบุคคลซึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องในการกระทำ ความผิดไว้เป็นพยาน ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาใช้บังคับ คือ ปัญหาการใช้ดุลพินิจของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ในการเลือกกันบุคคลที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการกระทำความผิดไว้เป็นพยาน ปัญหาการรับฟังคำให้การของพยานที่ถูกกันไว้เป็นพยานของศาล ซึ่งศาลมองว่าคำให้การของพยานอาจได้มาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย และปัญหา มาตรการทางกฎหมายที่จะดำเนินการลงโทษกับผู้ที่ถูกกันไว้เป็นพยาน กรณีไม่ไปเบิกความหรือไปเบิกความ แต่ไม่เป็นไปตามที่ให้การไว้หรือไม่เป็นประโยชน์ในการพิจารณาคดี ผู้ศึกษาจึงขอเสนอแนะดังนี้ ควรแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 โดยกำหนดให้ มีการตรวจสอบและถ่วงดุลการใช้ดุลพินิจของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ในการเลือกกันบุคคลไว้เป็นพยาน โดยตั้งเป็นคณะกรรมการเพื่อร่วมพิจารณาในการเลือกกันบุคคลไว้เป็นพยาน โดยมีผู้แทนจากตำรวจ อัยการ ศาลยุติธรรม และกระทรวงยุติธรรม และควรกำหนดให้แจ้งผู้ร้องหรือผู้เสียหายทราบ เพื่อทำคำคัดค้านยื่นต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ควรกำหนดให้มีขั้นตอนในการ แจ้งสิทธิผู้ถูกกล่าวหาว่าหากได้ให้ถ้อยคำอัน เป็นประโยชน์ในการวินิจฉัยชี้มูลความผิดของเจ้าหน้าที่รัฐ ที่เป็นตัวการสำคัญอาจได้รับการกันไว้เป็นพยาน เพื่อให้เป็นการแจ้งสิทธิตามกฎหมายและไม่ถือว่าเป็นการจูงใจ หรือให้คำมันสัญญา และควรกำหนดให้ศาลสามารถรับฟังคำให้การของผู้ร่วมกระทำความผิดที่ได้รับการกันไว้เป็นพยานเพื่อลงโทษจำเลยโดยไม่ต้องมีพยานหลักฐานอื่นประกอบก็ได้ และควรกำหนดให้คณะกรรมการป้องกัน และปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ สามารถไต่สวนชี้มูลความผิดกับผู้ที่ถูกยกเลิกคุ้มกันในคดีที่ได้ร่วมกระทำความผิดได้ และสามารถนำข้อมูลที่ได้ให้ไว้ใช้เป็นพยานหลักฐานในการดำเนินคดีได้ |
URI: | https://ir.stou.ac.th/handle/123456789/10716 |
Appears in Collections: | Law-Independent study |
Files in This Item:
File | Description | Size | Format | |
---|---|---|---|---|
fulltext.pdf | เอกสารฉบับเต็ม | 14.79 MB | Adobe PDF | View/Open |
This item is licensed under a Creative Commons License