แนวทางการพัฒนาศักยภาพของกลุ่มยุวเกษตรกรในจังหวัดกระบี่

Abstract

การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา (1) ความรู้ แหล่งความรู้เกี่ยวกับกระบวนการกลุ่มยุวเกษตรกรของสมาชิกยุวเกษตรกรและที่ปรึกษายุวเกษตรกร (2) ความคิดเห็นต่อกลุ่มยุวเกษตรกร ต่อการดำเนินงานและต่อการทำกิจกรรมเกษตรของสมาชิกยุวเกษตรกรและที่ปรึกษายุวเกษตรกร (3) การมีส่วนร่วมในการดำเนินงานและกิจกรรมเกษตรของสมาชิกยุวเกษตรกรและที่ปรึกษายุวเกษตรกร (4) ปัญหา ข้อเสนอแนะ จุดแข็ง จุดอ่อน โอกาส อุปสรรคและแนวทางการพัฒนาศักยภาพกลุ่มยุวเกษตรกรประชากรที่ศึกษา คือ กลุ่มยุวเกษตรกรจังหวัดกระบี่ 64 กลุ่ม สมาชิกยุวเกษตรกร 1,431 คน ที่ปรึกษายุวเกษตรกร 64 คน คณะกรรมการยุวเกษตรกร 64 กลุ่ม กำหนดขนาดกลุ่มตัวอย่างตามสูตรของ ทาโร่ ยามาเน่ ได้สมาชิกยุวเกษตรกร 233 คน ที่ปรึกษายุวเกษตรกร 52 คน สุ่มตัวอย่างแบบง่าย ส่วนคณะกรรมการยุวเกษตรกร 64 คน ทำการคัดเลือกแบบเฉพาะเจาะจง วิเคราะห์ข้อมูลโดยการแจกแจงความถี่ ค่าร้อยละ ค่าต่ำสุด ค่าสูงสุด ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การจัดอันดับ การวิเคราะห์ SWOT และการวิเคราะห์หาความแตกต่างของข้อมูลโดยใช้สถิต t-test ผลการวิจัย พบว่า (1) สมาชิกยุวเกษตรกรส่วนใหญ่มีความรู้การดำเนินงานกลุ่มยุวเกษตรกรในระดับมากที่สุด โดยสมาชิกยุวเกษตรกรและที่ปรึกษายุวเกษตรกรได้รับความรู้จากแหล่งความรู้จากสื่อบุคคลมากที่สุด (2) สมาชิกยุวเกษตรกรและที่ปรึกษายุวเกษตรกรมีความคิดเห็นต่อกลุ่มยุวเกษตรกร ต่อการดำเนินงานกลุ่มยุวเกษตรกรอยู่ในระดับมากที่สุด สมาชิกยุวเกษตรกรมีความคิดเห็นต่อการทำกิจกรรมการเกษตรอยู่ในระดับมากที่สุดและที่ปรึกษายุวเกษตรกรมีความคิดเห็นต่อการทำกิจกรรมการเกษตรอยู่ในระดับมาก (3) การมีส่วนร่วมในการดำเนินงานกลุ่ม การมีส่วนร่วมในการทำกิจกรรมการเกษตรของสมาชิกยุวเกษตรกรและที่ปรึกษายุวเกษตรกรอยู่ในระดับมาก (4) ปัญหาในการดำเนินงานกลุ่มยุวเกษตรกรของสมาชิกยุวเกษตรกรและที่ปรึกษายุวเกษตรกรอยู่ในระดับน้อย แนวทางการพัฒนากลุ่มยุวเกษตรกร ได้แก่ ที่ปรึกษายุวเกษตรกรและเจ้าหน้าที่ส่งเสริมร่วมกันวางแผนการพัฒนากลุ่ม สมาชิกกลุ่มมีส่วนร่วมการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง เจ้าหน้าที่ส่งเสริมการเกษตรให้คำปรึกษาและชี้แนะการดำเนินงานกลุ่ม ส่งเสริมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างสมาชิกรุ่นใหม่และรุ่นเก่า ดูงานจากกลุ่มที่ประสบความสำเร็จ ประสานงานกับหน่วยงานต่างๆ ในเรื่องงบสนับสนุนอย่างต่อเนื่อง เมื่อทดสอบสมมติฐาน การมีส่วนร่วมในการทำกิจกรรมการเกษตรระหว่างสมาชิกยุวเกษตรกรและที่ปรึกษายุวเกษตรกร พบว่ามีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญยิ่งทางสถิติที่ระดับ 0.01