Please use this identifier to cite or link to this item: https://ir.stou.ac.th/handle/123456789/10915
Title: มาตรการลงโทษผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษาในการกระทำความผิดทางเพศ
Other Titles: The measures to punish educational profession for committing a sex offense
Authors: สุจินตนา ชุมวิสูตร, อาจารย์ที่ปรึกษา
พิชญาภา ตุลสุข, 2529-
มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สาขาวิชานิติศาสตร์
Keywords: มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. วิชาเอกกฎหมายอาญาและกระบวนการยุติธรรม --การศึกษาเฉพาะกรณี
อาชญากรรมทางเพศ
ความผิดในคดีเด็กและเยาวชน
ความผิดต่อบุคคล
การศึกษาอิสระ--กฎหมายอาญาและกระบวนการยุติธรรม
Issue Date: 2562
Publisher: มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช
Abstract: การศึกษาค้นคว้าอิสระเรื่อง มาตรการลงโทษผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษาในการกระทำความผิดทางเพศ มีวัตถุประสงค์ (1) เพื่อศึกษาความเป็นมา แนวคิด ทฤษฎีที่เกี่ยวกับการลงโทษผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษา (2) เพื่อวิเคราะห์ปัญหากฎหมายที่เกี่ยวกับการลงโทษผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษา ในการกระทำความผิดทางเพศ โดยศึกษาเปรียบเทียบกับกฎหมายของประเทศอังกฤษและประเทศเยอรมัน (3) เพื่อเสนอแนะมาตรการลงโทษผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษาในการกระทำความผิดทางเพศ การศึกษาค้นคว้าอิสระนี้ เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพ โดยวิจัยจากเอกสาร ค้นคว้าและรวบรวมข้อมูลทั้งของประเทศไทยและต่างประเทศที่เกี่ยวข้อง จากตำรา บทบัญญัติของกฎหมาย หนังสือ บทความ วารสารต่าง ๆ ตลอดจนเอกสารของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องผลการศึกษาเมื่อวิเคราะห์ปัญหากฎหมายการลงโทษผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษา กรณีความผิดเกี่ยวกับเพศ เปรียบเทียบกับกฎหมายของประเทศอังกฤษและประเทศเยอรมันแล้วพบว่า (1) การตีความคำว่า “ศิษย์ซึ่งอยู่ในความดูแล” ตามมาตรา 285 แห่งประมวลกฎหมายอาญา ยังไม่มีความชัดเจน ทำให้เกิดปัญหาในการตีความ ซึ่งแตกต่างจากประเทศอังกฤษที่มีการกำหนดรายละเอียดคำนิยามไว้กว้างกว่ากฎหมายไทย และยังมีการกำหนดอายุของ “ศิษย์ซึ่งอยู่ในความดูแล” ไว้อย่างชัดเจน จึงเสนอแนะมาตรการที่เหมาะสมในการลงโทษผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษา กรณีความผิดเกี่ยวกับเพศ เห็นควรมีการแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 285 จากคำว่า “ศิษย์ซึ่งอยู่ในความดูแล” เป็น “ศิษย์ไม่ว่าจะอยู่ในความดูแลของตนหรือไม่” (2) มาตรการลงโทษทางอาญาในปัจจุบันยังไม่สามารถทำให้ความผิดเกี่ยวกับเพศ ที่เกิดจากผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษาลดลงได้ จึงจำเป็นต้องมีมาตรการเสริมทางอาญาหรือมาตรการทางเลือกที่เหมาะสมอื่นมาปรับใช้ในการลงโทษผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษาในคดีเกี่ยวกับเพศ เช่น การห้ามประกอบอาชีพบางอย่าง การจำกัดเขตที่อยู่อาศัย รวมถึงให้มีการจัดเก็บข้อมูลของผู้กระทำความผิด โดยขึ้นทะเบียนผู้กระทำผิดทางเพศเพื่อให้สามารถดำเนินการตรวจสอบและติดตามผู้กระทำผิดได้ (3) การคุ้มครองผู้เสียหายหรือพยานซึ่งเป็นเด็กในคดีความผิดเกี่ยวกับเพศในการสอบสวนทางปกครองยังไม่มีความเหมาะสม จึงควรให้มีการแก้ไขบทบัญญัติในข้อ 38 แห่งข้อบังคับคุรุสภา ว่าด้วยการพิจารณา การประพฤติผิดจรรยาบรรณของวิชาชีพ พ.ศ. 2553 เรื่องการสอบปากคำพยานผู้เสียหายซึ่งเป็นเด็ก ให้สามารถนำถ้อยคำของเด็กในชั้นสืบสวนเบื้องต้นมาใช้รับฟังเป็นพยานหลักฐานในชั้นสอบสวนพิจารณาได้ โดยไม่ต้องสอบปากคำพยานเด็กอีกครั้ง เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อจิตใจของเด็ก
URI: https://ir.stou.ac.th/handle/123456789/10915
Appears in Collections:Law-Independent study

Files in This Item:
File Description SizeFormat 
166865.pdfเอกสารฉบับเต็ม12.82 MBAdobe PDFView/Open


This item is licensed under a Creative Commons License Creative Commons