กรุณาใช้ตัวระบุนี้เพื่ออ้างอิงหรือเชื่อมต่อรายการนี้: https://ir.stou.ac.th/handle/123456789/11664
ชื่อเรื่อง: การศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างรายได้ภาษีสรรพากรกับผลิตภัณฑ์มวลรวมรวมจังหวั
ชื่อเรื่องอื่นๆ: A study of relations between tax revenue and gross provincial products
ผู้แต่ง/ผู้ร่วมงาน: ชมพูนุท โกสลากร เพิ่มพูนวิวัฒน์
ประสิทธิ์ มะโนธรรม, 2513-
มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สำนักบัณฑิตศึกษา
ศิริพร สัจจานันท์
คำสำคัญ: ภาษี
การจัดเก็บภาษี
ผลิตภัณฑ์มวลรวมจังหวัด
วันที่เผยแพร่: 2550
สำนักพิมพ์: มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช
บทคัดย่อ: การวิจัยครั้งนี้มี วัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาถึงสัดส่วนรายได้ภาษีอากร 2) รายได้ภาษีสรรพากรของประเทศไทยและศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างรายได้ภาษีสรรพากรกับผลิตภัณฑ์มวลรวมจังหวัดในแต่ละสาขาการผลิตของแต่ละกลุ่มพื้นที่ โดยทำการวิเคราะห์สัดส่วนรายได้ภาษีอากรต่อรายได้รัฐบาลผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ รายได้ภาษีสรรพากรต่อรายได้ภาษีอากร ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ และผลิตภัณฑ์มวลรวมจังหวัดในแต่ละกลุ่มพื้นที่ที่จำแนกตามประเภทรายได้ภาษีสรรพากร โดยใช้ข้อมูลทุติยภูมิในช่วงปี 2540 - 2550 ของหน่วยงานกรมสรรพากร สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ งานวิจัยนี้ใช้การวิเคราะห์เชิงพรรณาในการวิเคราะห์สัดส่วน และใช้การวิเคราะห์เชิงปริมาณในการวิเคราะห์ค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ของเพียร์สันเป็นตัววัดค่าและทิศทางความสัมพันธ์ ผลการศึกษาพบว่า 1) สัดส่วนรายได้ภาษีอากรคิดเป็นร้อยละ 88 ของรายได้รัฐบาล เมื่อเทียบสัดส่วนรายได้ภาษีอากรตามหน่วยงานที่มีหน้าที่จัดเก็บพบว่า ร้อยละ 70 เป็นรายได้มาจากภาษีสรรพากร ร้อยละ 20 มาจากภาษีสรรพสามิต และร้อยละ 10 มาจากภาษีศุลกากร ภาษีที่จัดเก็บได้สูงสุดเป็นอันดับหนึ่งมาจากภาษีมูลค่าเพิ่ม รองลงมาคือภาษีเงินได้นิติบุคคล ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ภาษีธุรกิจเฉพาะ ภาษีปิโตรเลียม และอากรแสตมป์ และพบว่ากลุ่มพื้นที่สรรพากรในเขตกรุงเทพมหานคร มีสัดส่วนรายได้ภาษีสรรพากรรวมต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมจังหวัด สูงที่สุด ร้อยละ 22 และต่ำสุดร้อยละ 2 เป็นกลุ่มพื้นที่สรรพากรในเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน 2) ผลการวิเคราะห์ความสัมพันธ์พบว่า การเปลี่ยนแปลงของรายได้ภาษีสรรพากร มีความสัมพันธ์กับการเปลี่ยนแปลงของผลิตภัณฑ์มวลรวมจังหวัดและเป็นไปในทางบวกที่ระดับนัยสำคัญทางสถิติเท่ากับร้อยละ 0.01 โดยสาขาเกษตรกรรม มีความสัมพันธ์สูงในทุกพื้นที่ของกลุ่มจังหวัด รองลงมาคือสาขาการไฟฟ้าประปา ส่วนสาขาที่มีความสัมพันธ์น้อยที่สุดคือสาขาการเงินและการธนาคาร ปัจจัยที่มีความสำคัญที่จะนำมาใช้เพื่อเพิ่มปริมาณการจัดเก็บภาษีสรรพากรคือมูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวมจังหวัดในแต่ละสาขาการผลิต เพราะมีอิทธิพลต่อการจัดเก็บภาษีในแต่ละจังหวัดมากที่สุด
รายละเอียด: วิทยานิพนธ์ (ศ.ม. (เศรษฐศาสตร์))--มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช, 2550
URI: https://ir.stou.ac.th/handle/123456789/11664
ปรากฏในกลุ่มข้อมูล:Econ-Theses

แฟ้มในรายการข้อมูลนี้:
แฟ้ม รายละเอียด ขนาดรูปแบบ 
109996.pdfเอกสารฉบับเต็ม8.43 MBAdobe PDFดู/เปิด


รายการนี้ได้รับอนุญาตภายใต้ Creative Commons License Creative Commons