Please use this identifier to cite or link to this item:
https://ir.stou.ac.th/handle/123456789/11666
Title: | ผลตอบแทนและปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการกำหนดอัตราเงินสะสมในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพของสมาชิกที่เป็นพนักงานการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค |
Other Titles: | Benefits and factors influencing on accumulative money rate determination in the provident fund among the Provincial Electricity Authority Employees |
Authors: | เอกพล หนุ่ยศรี เอกวลี คณาวงษ์, 2511- มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สำนักบัณฑิตศึกษา ปรัชญ์ ปราบปรปักษ์ |
Keywords: | กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ เงินสะสม |
Issue Date: | 2551 |
Publisher: | มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช |
Abstract: | การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) ศึกษาพัฒนาการกองทุนสำรองเลี้ยงชีพของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (2) ศึกษาถึงผลตอบแทนที่คาดว่าจะได้รับจากกองทุนสำรองเลี้ยงชีพของสมาชิกที่เป็นพนักงานการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค และ (3) ศึกษาถึงปัจจัยที่มีผลต่อการกำหนดอัตราเงินสะสมในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพของสมาชิกที่เป็นพนักงานการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ผลการวิจัยพบว่า (1) กองทุนสำรองเลี้ยงชีพของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคมีการพัฒนาการที่สูงขึ้นในด้าน จำนวนสมาชิกที่เพิ่มขึ้น จำนวนเงินกองทุนเพิ่มขึ้น และการลงทุนของบริษัทผู้จัดการกองทุนได้นำเงินไปลงทุนในตลาดเงินเพิ่มขึ้น (2) ผลตอบแทนที่คาดว่าจะได้รับจากกองทุนสำรองเลี้ยงชีพของสมาชิกที่เป็นพนักงานการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค มากกว่าผลตอบแทนจากการลงทุนด้วยตนเอง โดยกองทุนสำรองเลี้ยงชีพจะมีมูลค่าเงินในอนาคต (future value) มากกว่าการลงทุนด้วยตนเองโดยการฝากเงินประเภทเงินฝากประจำกับธนาคารพาณิชย์ และ (3) ปัจจัยที่มีผลต่อการกำหนดอัตราเงินสะสมในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพของสมาชิกที่เป็นพนักงานการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ได้แก่ อายุ อายุงาน การศึกษา ปัจจัยเหล่านี้มีความสัมพันธ์ในทิศทางเดียวกันกับการกำหนดอัตราสะสมในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ แต่อัตราพึ่งพิงมีความสัมพันธ์ในทิศทางตรงกันข้ามกับการกำหนดอัตราสะสมในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ โดยที่ตัวแปรอายุในเขต 1 ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีความสัมพันธ์ในทิศทางเดียวกันกับการกำหนดอัตราสะสมในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01 ในขณะที่ เขต 3 ภาคใต้มีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 ส่วนตัวแปรอายุงาน ในสำนักงานใหญ่ และ เขต 1 ภาคเหนือ, เขต 2 ภาคเหนือ, เขต 2และ เขต 3 ของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ, เขต 1 ภาคกลาง มีความสัมพันธ์ในทิศทางเดียวกันกับการกำหนดอัตราสะสมในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01 ในขณะที่ เขต 3 ภาคกลาง มีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 และ ตัวแปรการศึกษา ในสำนักงานใหญ่ ความสัมพันธ์ในทิศทางเดียวกันกับการกำหนดอัตราสะสมในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01 ในขณะที่เขต 3 ภาคเหนือมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 สำหรับอัตราพึ่งพิงในเขต 3 ภาคกลางมีความสัมพันธ์ในทิศทางตรงกันข้ามกับการกำหนดอัตราสะสมในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01 |
Description: | วิทยานิพนธ์ (ศ.ม. (เศรษฐศาสตร์))--มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช, 2551 |
URI: | https://ir.stou.ac.th/handle/123456789/11666 |
Appears in Collections: | Econ-Theses |
Files in This Item:
File | Description | Size | Format | |
---|---|---|---|---|
109999.pdf | เอกสารฉบับเต็ม | 4.49 MB | Adobe PDF | View/Open |
This item is licensed under a Creative Commons License