กรุณาใช้ตัวระบุนี้เพื่ออ้างอิงหรือเชื่อมต่อรายการนี้: https://ir.stou.ac.th/handle/123456789/11719
ชื่อเรื่อง: อิทธิพลทัศนคติด้านการออมที่มีผลต่อปัจจัยส่วนประสมทางการตลาดของกรมธรรม์ประกันชีวิตควบการลงทุนในกลุ่มผู้บริโภคเจเนเรชั่นวายในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และปริมณฑล
ชื่อเรื่องอื่นๆ: The influence of saving attitude on marketing mix of insurance investment plan among Generation Y consumer in Bangkok Metropolitan Region
ผู้แต่ง/ผู้ร่วมงาน: ภูริพัฒน์ ชาญกิจ, อาจารย์ที่ปรึกษา
ธานินทร์ เอ่งฉ้วน, 2520-
มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สาขาวิชาวิทยาการจัดการ
คำสำคัญ: มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สาขาวิชาวิทยาการจัดการ--การศึกษาเฉพาะกรณี
มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. แขนงวิชาการจัดการธุรกิจและการบริการ--การศึกษาเฉพาะกรณี
การออมกับการลงทุน
การศึกษาอิสระ--การจัดการธุรกิจและการบริการ
วันที่เผยแพร่: 2563
สำนักพิมพ์: มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช
บทคัดย่อ: การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาระดับความสำคัญของปัจจัยส่วนประสมทางการตลาดของกรมธรรม์ประกันชีวิตควบการลงทุน (2) วิเคราะห์ระดับความสำคัญของปัจจัยทัศนคติด้านการออม (3) เปรียบเทียบระดับความสำคัญปัจจัยส่วนประสมทางการตลาดของกรมธรรม์ประกันชีวิตควบการลงทุน จำแนกตามปัจจัยด้านประชากรศาสตร์ และ (4) ศึกษาอิทธิพลปัจจัยด้านทัศนคติด้านการออมต่อปัจจัยส่วนประสมทางการตลาดของกรมธรรม์ประกันชีวิตควบการลงทุน ของผู้บริโภคเจนเนอเรชั่นวาย ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และปริมณฑล การศึกษาครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงสำรวจ ประชากรคือผู้บริโภคเจนเนอเรชั่นวาย ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และปริมณฑล ซึ่งไม่ทราบจำนวนที่แน่นอน คำนวณขนาดกลุ่มตัวอย่างโดยใช้สูตรของคอแครนได้จำนวน 390 คน สุ่มตัวอย่างแบบตามความสะดวก เครื่องมือที่ใช้เก็บรวบรวมข้อมูลคือ แบบสอบถาม สถิติที่ใช้วิเคราะห์ข้อมูลได้แก่ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบค่าที การวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว และการวิเคราะห์การถดถอยพหุคูณ ผลการศึกษาพบว่า (1) ระดับความสําคัญของปัจจัยส่วนประสมทางการตลาดของกรมธรรม์ประกันชีวิตควบการลงทุนโดยรวมและรายด้านอยู่ในระดับมาก โดยลำดับแรกคือ ด้านผลิตภัณฑ์ รองลงมาคือ ด้านการส่งเสริมการขาย ด้านราคา และด้านช่องทางการจัดจําหน่าย ตามลำดับ (2) ระดับความสําคัญของปัจจัยทัศนคติด้านการออมโดยรวมและรายด้านอยู่ในระดับมาก ลำดับแรกคือด้านความรู้สึก รองลงมาคือด้านความรู้ความเข้าใจ และด้านพฤติกรรม ตามลำดับ (3) ผู้บริโภคเจนเนอเรชั่นวายในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑลที่มีเพศ สถานภาพสมรสระดับการศีกษาและอาชีพต่างกันมีความคิดเห็นต่อระดับความสำคัญของปัจจัยส่วนประสมทางการตลาดของกรมธรรม์ประกันชีวิตควบการลงทุนแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 (4) ปัจจัยทัศนคติด้านการออมมีอิทธิพลเชิงบวกต่อปัจจัยส่วนประสมทางการตลาดของกรมธรรม์ประกันชีวิตควบการลงทุน โดยสามารถร่วมกันทำนายได้ ร้อยละ 31.4 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
URI: https://ir.stou.ac.th/handle/123456789/11719
ปรากฏในกลุ่มข้อมูล:Manage-Independent study

แฟ้มในรายการข้อมูลนี้:
แฟ้ม รายละเอียด ขนาดรูปแบบ 
FULLTEXT.pdfเอกสารฉบับเต็ม20.63 MBAdobe PDFดู/เปิด


รายการนี้ได้รับอนุญาตภายใต้ Creative Commons License Creative Commons