Please use this identifier to cite or link to this item:
https://ir.stou.ac.th/handle/123456789/12715| Title: | ผลการใช้ชุดกิจกรรมแนะแนวโดยใช้เกมเพื่อพัฒนากรอบความคิดแบบเติบโตด้านการเรียนรู้ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนสีกัน (วัฒนานันท์อุปถัมภ์) กรุงเทพมหานคร |
| Other Titles: | Effects of using a guidance activities package with games to develop growth mindset on learning of grade 10 students at Seekan (Wattananunuppathum) School in Bangkok Metropolis |
| Authors: | นิรนาท แสนสา เสาวณีย์ ไม่เศร้า มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สาขาวิชาศึกษาศาสตร์ |
| Keywords: | การแนะแนว--กิจกรรมการเรียนการสอน เกม--การศึกษาและการสอน (มัธยมศึกษา) |
| Issue Date: | 2564 |
| Publisher: | มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช |
| Abstract: | การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) เปรียบเทียบกรอบความคิดแบบเติบโตด้านการเรียนรู้ของนักเรียนก่อนและหลังการใช้ชุดกิจกรรมแนะแนวโดยใช้เกมเพื่อพัฒนากรอบความคิดแบบเติบโตด้านการเรียนรู้ และ (2) เปรียบเทียบกรอบความคิดแบบเติบโตด้านการเรียนรู้ของนักเรียนหลังการใช้ชุดกิจกรรมแนะแนวโดยใช้เกมกับระยะติดตามผล กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ปีการศึกษา 2565 โรงเรียนสีกัน (วัฒนานันท์อุปถัมภ์) กรุงเทพมหานคร จานวน 30 คน ได้มาโดยการสุ่มอย่างง่าย เครื่องมือในการวิจัย ได้แก่ (1) แบบวัดกรอบความคิดแบบเติบโตด้านการเรียนรู้ มีค่าความเที่ยง เท่ากับ 0.85 และ (2) ชุดกิจกรรมแนะแนวโดยใช้เกมเพื่อพัฒนากรอบความคิดแบบเติบโตด้านการเรียนรู้ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบค่าที ผลการวิจัยปรากฏว่า (1) ภายหลังการใช้ชุดกิจกรรมแนะแนวโดยใช้เกมเพื่อพัฒนากรอบความคิดแบบเติบโตด้านการเรียนรู้ นักเรียนกลุ่มทดลองมีคะแนนเฉลี่ยกรอบความคิดแบบเติบโตด้านการเรียนรู้สูงขึ้น อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 และ (2) นักเรียนกลุ่มทดลอง มีคะแนนเฉลี่ยกรอบความคิดแบบเติบโตด้านการเรียนรู้หลังการทดลองและระยะติดตามผลไม่แตกต่างกัน |
| URI: | https://ir.stou.ac.th/handle/123456789/12715 |
| Appears in Collections: | Edu-Independent study |
Files in This Item:
| File | Description | Size | Format | |
|---|---|---|---|---|
| FULLTEXT.pdf | เอกสารฉบับเต็ม | 16.4 MB | Adobe PDF | View/Open |
This item is licensed under a Creative Commons License
