Please use this identifier to cite or link to this item: https://ir.stou.ac.th/handle/123456789/12942
Full metadata record
DC FieldValueLanguage
dc.contributor.advisorทวีศักดิ์ จินดานุรักษ์th_TH
dc.contributor.authorมาริสา กาญจนคลอด, 2536-th_TH
dc.contributor.otherมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สำนักบัณฑิตศึกษาth_TH
dc.date.accessioned2024-11-11T08:02:13Z-
dc.date.available2024-11-11T08:02:13Z-
dc.date.issued2565-
dc.identifier.urihttps://ir.stou.ac.th/handle/123456789/12942-
dc.descriptionวิทยานิพนธ์ (ศษ.ม (วิทยาศาสตร์ศึกษา))-- มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช, 2565th_TH
dc.description.abstractการวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เปรียบเทียบทักษะการคิดวิเคราะห์หลังเรียนกับเกณฑ์ร้อยละ 70 2) เปรียบเทียบความสามารถในการสร้างคำอธิบายเชิงวิทยาศาสตร์ ระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียน และ 3) ศึกษาความสามารถในการสร้างคำอธิบายเชิงวิทยาศาสตร์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4ที่เรียนด้วยการจัดการเรียนรู้แบบห้องเรียนกลับด้านร่วมกับการสืบเสาะหาความรู้ (5E) เรื่อง แรงและกฎการเคลื่อนที่ (ศึกษาพัฒนาการหลังเรียนหรือไม่ ตรวจสอบและเติมให้สมบูรณ์) กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนเมืองสุราษฎร์ธานีภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2565 จำนวน 1 ห้องเรียน รวมทั้งหมด 36 คน ซึ่งได้มาจากการสุ่มแบบกลุ่ม เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ 1) แผนการจัดการเรียนรู้แบบห้องเรียนกลับด้านร่วมกับการสืบเสาะหาความรู้ (5E) 2) แบบทดสอบวัดทักษะการคิดวิเคราะห์ และ 3) แบบทดสอบความสามารถในการสร้างคำอธิบายเชิงวิทยาศาสตร์ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลได้แก่ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบค่าที ผลการวิจัยปรากฏว่า 1) นักเรียนมีทักษะการคิดวิเคราะห์เฉลี่ยหลังเรียนสูงกว่าเกณฑ์ร้อยละ70 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 2) นักเรียนมีความสามารถในการสร้างคำอธิบายเชิงวิทยาศาสตร์หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 และ 3) นักเรียนมีความสามารถในการสร้างคำอธิบายเชิงวิทยาศาสตร์อยู่ในระดับดีth_TH
dc.formatapplication/pdfen_US
dc.language.isothen_US
dc.publisherมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราชth_TH
dc.rightsมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราชth_TH
dc.rightsAttribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International (CC BY-NC-ND 4.0)en_US
dc.rights.urihttps://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0/en_US
dc.sourceBorn digitalen_US
dc.subjectวิทยาศาสตร์--กิจกรรมการเรียนการสอนth_TH
dc.subjectวิทยาศาสตร์--การศึกษาและการสอนth_TH
dc.titleผลการจัดการเรียนรู้แบบห้องเรียนกลับด้านร่วมกับการสืบเสาะหาความรู้ (5E) ที่มีต่อทักษะการคิดวิเคราะห์และความสามารถในการสร้างคำอธิบาย เชิงวิทยาศาสตร์ เรื่อง แรงและกฎการเคลื่อนที่ สำหรับนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนเมืองสุราษฎร์ธานี จังหวัดสุราษฎร์ธานีth_TH
dc.title.alternativeThe effects of flipped classroom together with 5Es inquiry-based instruction on analytical thinking skill and scientific explanation ability on the topic of force and law of motion of grade 10 students at Muang Suratthani School in Surat Thani Provinceen_US
dc.typeThesisen_US
dc.degree.nameศึกษาศาสตรมหาบัณฑิตth_TH
dc.degree.levelปริญญาโทth_TH
dc.degree.disciplineสาขาวิชาศึกษาศาสตร์th_TH
dc.degree.grantorมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราชth_TH
dc.description.abstractalternativeThe purposes of this research were to 1) compare the analytical thinking skill after learning with the 70% criterion; 2) compare scientific explanation ability between pre and post learning; and 3) study the scientific explanation ability of grade 10 students who learned through the flipped classroom together with 5Es inquiry-based instruction on the topic of Force and Law of Motion. The research sample consisted of 36 grade 10 students in one intact classroom of Muang Suratthani School during the first semester of the academic year 2022, obtained by cluster random sampling. The employed research instruments were 1) instructional plans for the flipped classroom together with 5Es inquiry-based instruction; 2) an analytical thinking skill test; and 3) a scale to assess scientific explanation ability. Statistics for data analysis were the mean, standard deviation, and t-test. The research results showed that 1) the students’ critical thinking skill after learning was significantly higher than the 70 percent of full score criterion at the .05 level of statistical significance; 2) the students’ post-learning scientific explanation ability was significantly higher than their pre-learning counterpart ability at the .05 level of statistical significance; and 3) the students’ post-learning scientific explanation ability was at the good level.en_US
dc.contributor.coadvisorชำนาญ เชาวกีรติพงศ์th_TH
Appears in Collections:Edu-Theses

Files in This Item:
File Description SizeFormat 
FULLTEXT.pdfเอกสารฉบับเต็ม19.16 MBAdobe PDFView/Open


This item is licensed under a Creative Commons License Creative Commons