กรุณาใช้ตัวระบุนี้เพื่ออ้างอิงหรือเชื่อมต่อรายการนี้: https://ir.stou.ac.th/handle/123456789/13056
ชื่อเรื่อง: การสื่อสารเพื่อสร้างการมีส่วนร่วมในการพัฒนาชุมชนขององค์การบริหารส่วนตำบลในจังหวัดเชียงราย
ชื่อเรื่องอื่นๆ: Communications to build public participation in community development by Tambon Administrative Organizations in Chiang Rai Province
ผู้แต่ง/ผู้ร่วมงาน: วิทยาธร ท่อแก้ว
ทนากร ศรีก๊อ
มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช.สาขาวิชานิเทศศาสตร์
กรกช ขันธบุญ
จิตราภรณ์ สุทธิวรเศรษฐ์
คำสำคัญ: การพัฒนาชุมชน--การมีส่วนร่วมของประชาชน
มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช.สาขาวิชานิเทศศาสตร์--วิทยานิพนธ์
มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช.แขนงวิชานวัตกรรมการสื่อสารทางการเมืองและการปกครองท้องถิ่น--วิทยานิพนธ์
องค์การบริหารส่วนตำบล--ไทย--เชียงราย
วันที่เผยแพร่: 2566
สำนักพิมพ์: มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช
บทคัดย่อ: การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา 1) บทบาทและสภาพปัญหาการสื่อสาร เพื่อสร้างการมีส่วนร่วมของประชาชนในกระบวนการจัดทำแผนพัฒนาชุมชนของผู้บริหารองค์การบริหารส่วนตำบลในจังหวัดเชียงราย  2) รูปแบบการสื่อสารเพื่อสร้างการมีส่วนร่วมในการพัฒนาชุมชนของผู้บริหารองค์การบริหารส่วนตำบลในจังหวัดเชียงราย และ 3) แนวทางการใช้ประโยชน์จากการสื่อสารเพื่อสร้างการมีส่วนร่วมในการพัฒนาชุมชนของผู้บริหารองค์การบริหารส่วนตำบลในจังหวัดเชียงราย                   การวิจัยนี้เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพด้วยการสัมภาษณ์เชิงลึก เลือกผู้ให้ข้อมูลหลักแบบเจาะจงจากผู้ที่เกี่ยวข้องโดยตรงด้านการสื่อสารเพื่อสร้างการมีส่วนร่วมในการพัฒนาชุมชนในจังหวัดเชียงราย จำนวน 3 กลุ่ม  รวมจำนวน 27 คน ได้แก่ (1) ผู้บริหารองค์การบริหารส่วนตำบล 16 คน (2) ผู้นำชุมชน 8 คน และ (3) ผู้ทรงคุณวุฒิ ด้านการสื่อสารและพัฒนาชุมชน 3 คน เครื่องมือในการวิจัย คือ แบบสัมภาษณ์เชิงลึกแบบมีโครงสร้าง วิเคราะห์ข้อมูลด้วยการสร้างข้อสรุป                   ผลการวิจัยพบว่า 1) บทบาทและสภาพปัญหาการสื่อสาร ประกอบด้วย 2 ด้าน คือ (1) บทบาทการสื่อสาร ในการให้ความรู้เกี่ยวกับสิทธิต่างๆ ของประชาชน การรับฟังความคิดเห็นของประชาชนตามแผนพัฒนาท้องถิ่น การประสานงานและมอบอำนาจการตัดสินใจให้แก่ประชาชนอย่างทั่วถึงและเสมอภาค และการสร้างความตระหนัก ในคุณค่าของตนเอง การพัฒนาตนเอง และการพัฒนาท้องถิ่น (2) สภาพปัญหาการสื่อสารด้านการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารไม่ทั่วถึงเนื่องจากชุมชนมีการกระจายตัว  มีข้อจำกัดด้านช่วงระยะเวลาสั้นในการรับฟังความคิดเห็น บุคลากรที่ทำหน้าที่สื่อสารขาดความชำนาญผ่านสื่อดั้งเดิมและสื่อใหม่ ผู้มีอำนาจตัดสินใจในการสื่อส่ารไม่ให้เหตุผลประกอบการตัดสินใจที่ชัดเจน และมีข้อจำกัดด้านกฎระเบียบในการปฏิบัติการการสื่อสาร 2) รูปแบบการสื่อสาร ประกอบด้วย 3 รูปแบบ คือ (1) การพัฒนานโยบายโดยใช้การสื่อสารแบบสองทางจากเบื้องล่างขึ้นสูงเบื้องบนและจากเบื้องบนสู่เบื้องล่าง (2) การกำหนดแนวทางการปฏิบัติงานมีการเปิดโอกาสให้ประชาชนได้เข้าไปมีบทบาทในกิจกรรมหลักขององค์กร และ (3) ประชาชนได้ร่วมตรวจสอบและประเมินผลการบริหารขององค์การบริหารส่วนตำบล และ 3) แนวทางการใช้ประโยชน์จากการสื่อสาร ประกอบด้วย 4 แนวทาง คือ (1) การนำไปใช้ในการวางแผนการออกแบบเนื้อหาสารและการนำเสนอเผยแพร่ (2) การนำไปกำหนดกลยุทธ์การสื่อสารให้สอดคล้องกับวิถีชีวิตของชุมชน (3) การดำเนินการจัดเวทีสาธารณะในการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารระหว่างภาครัฐและประชาชน (4) การลงมือปฏิบัติในการสร้างเครือข่ายการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพในการแก้ปัญหาชุมชน และ (5) การยกระดับการสร้างความเข้าใจในการทำงานร่วมกัน โดยการพัฒนาการสื่อสารภายในองค์กรให้เข้มแข็งทั้งรูปแบบการประชุม การใช้ช่องทางการสื่อสารทางออนไลน์ หรือการใช้เครื่องมือหรือแอปพลิเคชันสื่อสาร มุ่งสร้างสร้างความร่วมมือในทางปฏิบัติเพื่อร่วมกันพัฒนาชุมชนผ่านการจัดโครงการหรือกิจกรรม รวมทั้งเปิดโอกาสให้ประชาชนเกิดการเรียนรู้อย่างมีส่วนร่วมผ่าน กิจกรรมการศึกษา กิจกรรมสุขภาพ กิจกรรมบริการสาธารณะ กิจกรรมการพัฒนาชุมชนแบบจิตอาสา เพื่อร่วมขับเคลื่อนและผลักดันการทำงานเป็นไปตามเป้าหมายที่นำปัญหาและความต้องการของประชาชนในชุมชนมาเป็นฐานการพัฒนาท้องถิ่น
URI: https://ir.stou.ac.th/handle/123456789/13056
ปรากฏในกลุ่มข้อมูล:Comm-Theses

แฟ้มในรายการข้อมูลนี้:
แฟ้ม รายละเอียด ขนาดรูปแบบ 
4631500479.pdf987.57 kBAdobe PDFดู/เปิด


รายการทั้งหมดในระบบคิดีได้รับการคุ้มครองลิขสิทธิ์ มีการสงวนสิทธิ์เว้นแต่ที่ระบุไว้เป็นอื่น