กรุณาใช้ตัวระบุนี้เพื่ออ้างอิงหรือเชื่อมต่อรายการนี้: https://ir.stou.ac.th/handle/123456789/13324
ชื่อเรื่อง: การนำนโยบายการบริหารงานของสำนักงานอัยการสูงสุดด้านการอำนวยความยุติธรรมไปปฏิบัติ
ชื่อเรื่องอื่นๆ: Administrative policy implementation of office of the attorney general regarding the Administration of Justice
ผู้แต่ง/ผู้ร่วมงาน: นพดล อุดมวิศวกุล
เบ็ญจวรรณ ไทรงามเอี่ยม
มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช.สาขาวิชาวิทยาการจัดการ
คำสำคัญ: การนำนโยบายไปปฏิบัติ  นโยบายการบริหารงานของสำนักงานอัยการสูงสุด การอำนวยความยุติธรรม   สำนักงานอัยการสูงสุด
มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช.สาขาวิชาวิทยาการจัดการ--การศึกษาเฉพาะกรณี
มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช.แขนงวิชาบริหารรัฐกิจ--การศึกษาเฉพาะกรณี
การศึกษาเฉพาะกรณี--บริหารรัฐกิจ
วันที่เผยแพร่: 2566
สำนักพิมพ์: มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช
บทคัดย่อ: การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) ศึกษาสภาพการณ์ในการนำนโยบายการบริหารงานของสำนักงานอัยการสูงสุด ด้านการอำนวยความยุติธรรมไปปฏิบัติ (2) วิเคราะห์ปัจจัยที่มีความสัมพันธ์ในการนำนโยบายการบริหารงานของสำนักงานอัยการสูงสุดด้านการอำนวยความยุติธรรมไปปฏิบัติสู่ความสำเร็จ (3) เสนอแนวทางการปรับปรุงและพัฒนาการนำนโยบายการบริหารงานของสำนักงานอัยการสูงสุดด้านการอำนวยความยุติธรรมไปปฏิบัติ การศึกษาครั้งนี้ใช้การวิจัยแบบผสมวิธี การวิจัยเชิงปริมาณ ประชากร คือ ข้าราชการฝ่ายอัยการและบุคลากรที่ปฏิบัติงานสำนักงานคดีในส่วนกลาง จำนวน 2,023 คน โดยใช้การคำนวณด้วยสูตรของทาโร่ ยามาเน่ ได้กลุ่มตัวอย่าง จำนวน 334 คน ด้วยวิธีการสุ่มตัวอย่างแบบชั้นภูมิและแบบบังเอิญ เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา คือ แบบสอบถาม การวิเคราะห์ข้อมูลและสถิติ ได้แก่ การหาค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการวิเคราะห์สัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์เพียร์สัน ส่วนการวิจัยเชิงคุณภาพ ประชากร คือ ข้าราชการสำนักงานคดีในส่วนกลาง จำนวน 168 คน โดยผู้ให้ข้อมูลสำคัญ คือ ข้าราชการฝ่ายอัยการผู้เกี่ยวข้องโดยตรงที่มีความเชี่ยวชาญในการปฏิบัติงาน โดยมีจำนวน 10 คน และใช้วิธีเลือกแบบเจาะจง เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา คือ แบบสัมภาษณ์แบบมีโครงสร้างเป็นการสัมภาษณ์ในเชิงลึกเพื่อนำมาวิเคราะห์เนื้อหาผลการศึกษาพบว่า (1) ปัญหาที่สำคัญของการนำนโยบายการบริหารงานของสำนักงานอัยการสูงสุดด้านการอำนวย ความยุติธรรมไปปฏิบัติ ได้แก่ ทรัพยากรในการจัดการ ลักษณะขององค์การ และการสื่อสารระหว่างองค์การ (2) ปัจจัยด้านต่าง ๆ ในการนำนโยบายไปปฏิบัติ มีความสัมพันธ์เชิงบวกกับความสำเร็จของการนำนโยบายการบริหารงานของสำนักงานอัยการสูงสุดไปปฏิบัติ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01 (3) แนวทางการปรับปรุงและพัฒนา ที่สำคัญที่สุดมีดังนี้ 1. ด้านทรัพยากรในการจัดการควรปรับปรุงอัตรากำลังบุคลากรให้เพียงพอและเหมาะสมกับปริมาณงาน พัฒนาทักษะหรือองค์ความรู้ให้มีประสิทธิภาพ สนับสนุนในด้านความรู้ ของบุคลากร รวมทั้งการพัฒนาความพร้อมของบุคลากรเพื่อใช้ในการทำงาน ปรับปรุงงบประมาณ ปรับปรุงวัสดุ อุปกรณ์ และสถานที่ต่าง ๆ ที่มีความขาดแคลน 2. ด้านการสื่อสารควรปรับปรุงพร้อมพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศที่มีอยู่ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นสำหรับการปฏิบัติงานโดยใช้แอปพลิเคชัน ที่มีอยู่ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น 3. ด้านโครงสร้างองค์การควรปรับเปลี่ยนโครงสร้างองค์การตามหน้าที่โดยการกำหนดหน้าที่ในแต่ละส่วนอย่างชัดเจน เพื่อให้การบริหารงานภายในองค์การให้มีความเหมาะสม ปรับโครงสร้างให้ง่ายต่อการประสานงานและบังคับบัญชาโดยการปรับปรุงโครงสร้างองค์การแนวนอนหรือแบน เนื่องจากโครงสร้างองค์การจะต้องมีความเหมาะสมต่อการดำเนินงานด้านการประสานความร่วมมือของหน่วยงานในการอำนวยความยุติธรรม ปรับปรุงการให้บริการแก่ประชาชนโดยลดขั้นตอนและระยะเวลาในการให้บริการทำให้การอำนวยความยุติธรรมรวดเร็ว
URI: https://ir.stou.ac.th/handle/123456789/13324
ปรากฏในกลุ่มข้อมูล:Manage-Independent study

แฟ้มในรายการข้อมูลนี้:
แฟ้ม รายละเอียด ขนาดรูปแบบ 
2643002351.pdf2.32 MBAdobe PDFดู/เปิด


รายการทั้งหมดในระบบคิดีได้รับการคุ้มครองลิขสิทธิ์ มีการสงวนสิทธิ์เว้นแต่ที่ระบุไว้เป็นอื่น