ปัญหาทางกฎหมายในการใช้สิทธิของผู้ประกอบธุรกิจเพื่อการเข้าตรวจสอบอาคารที่ให้เช่า

Abstract

การศึกษาค้นคว้าอิสระนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) ศึกษาแนวคิดทางกฎหมายเกี่ยวกับการคุ้มครองสิทธิผู้บริโภคด้านการทำสัญญาเช่าอาคารเพื่ออยู่อาศัย และการใช้สิทธิของผู้ประกอบธุรกิจเพื่อการเข้าตรวจสอบอาคารที่ให้เช่า (2) ศึกษากฎหมายที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภคด้านการทำสัญญาเช่าอาคารเพื่ออยู่อาศัย และการใช้สิทธิของผู้ประกอบธุรกิจเพื่อการเข้าตรวจสอบอาคารที่ให้เช่า (3) วิเคราะห์เปรียบเทียบกฎหมายของประเทศไทยกับกฎหมายของเครือรัฐออสเตรเลียเกี่ยวกับหลักเกณฑ์การใช้สิทธิของผู้ประกอบธุรกิจเพื่อการเข้าตรวจสอบอาคารที่ให้เช่า (4) เสนอแนะแนวทางในการแก้ไขปรับปรุงกฎหมายเกี่ยวกับการใช้สิทธิของผู้ประกอบธุรกิจเพื่อการเข้าตรวจสอบอาคารที่ให้เช่าของประเทศไทย เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมแก่ผู้ประกอบธุรกิจและผู้บริโภค การศึกษาค้นคว้าอิสระนี้เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพด้วยวิธีวิจัยเอกสาร โดยศึกษาจากตัวบทกฎหมาย บทความ เอกสารทางวิชาการ วารสาร งานวิจัย วิทยานิพนธ์ของประเทศไทยและต่างประเทศ ในการศึกษาครั้งนี้ผู้ศึกษาได้ใช้วิธีการวิเคราะห์เนื้อหา และวิเคราะห์เปรียบเทียบกฎหมายของประเทศไทย ได้แก่ประกาศคณะกรรมการว่าด้วยสัญญา เรื่อง ให้ธุรกิจการให้เช่าอาคารเพื่ออยู่อาศัยเป็นธุรกิจที่ควบคุมสัญญา พุทธศักราช 2562 และกฎหมายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องของประเทศไทย กับกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการเช่าอาคารเพื่อที่อยู่อาศัยของเครือรัฐออสเตรเลีย ผลการศึกษา พบว่า (1) แนวคิดทางกฎหมายของประเทศไทยให้ความคุ้มครองสิทธิผู้บริโภคในการทำสัญญาเช่าอาคารเพื่ออยู่อาศัย ซึ่งผู้ประกอบธุรกิจมีสิทธิเข้าตรวจสอบอาคารที่ให้เช่า 2) กฎหมายของประเทศไทยมีการกำหนดเกี่ยวกับการใช้สิทธิของผู้ให้ประกอบธุรกิจเพื่อการเข้าตรวจสอบอาคารที่ให้เช่าไว้แตกต่างจากกฎหมายเครือรัฐออสเตรเลีย ซึ่งกำหนดกรณีที่ผู้ให้เช่าสามารถเข้าตรวจสอบอาคารที่ให้เช่าไว้อย่างชัดเจน (3) หลักเกณฑ์การใช้สิทธิของผู้ประกอบธุรกิจเพื่อการเข้าตรวจสอบอาคารที่ให้เช่าตามกฎหมายของประเทศไทย กำหนดกรณีเหตุฉุกเฉิน โดยไม่ต้องได้รับความยินยอมจากผู้เช่าและไม่ต้องแจ้งให้ผู้เช่าทราบเป็นข้อยกเว้นไว้ แต่กฎหมายของเครือรัฐออสเตรเลียมีการกำหนดกรณีการใช้สิทธิของผู้ประกอบธุรกิจเพื่อการเข้าตรวจสอบอาคารที่ให้เช่าแยกออกเป็นกรณีที่ต้องแจ้งและไม่ต้องแจ้งให้ผู้เช่าทราบล่วงหน้าไว้อย่างชัดเจน (4) ควรมีการแก้ไขปรับปรุงกฎหมายของประเทศไทยให้มีความชัดเจน โดยแก้ไขบทบัญญัติเกี่ยวกับการใช้สิทธิของผู้ประกอบธุรกิจเพื่อการเข้าไปตรวจสอบอาคารที่ให้เช่า ซึ่งมิได้ตกอยู่ภายใต้หลักความยินยอมหรืออนุญาตของผู้เช่า เพราะเป็นการใช้สิทธิของผู้ให้เช่าเพื่อการเข้าไปตรวจสอบอาคารที่ให้เช่าตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด