กรุณาใช้ตัวระบุนี้เพื่ออ้างอิงหรือเชื่อมต่อรายการนี้: https://ir.stou.ac.th/handle/123456789/13530
ชื่อเรื่อง: ผลของการเสริมกาบกล้วยต่อสมรรถภาพการผลิตของไก่ไข่ระยะไข่
ชื่อเรื่องอื่นๆ: Effect of banana pseudostem supplementation on production performance of laying hens
ผู้แต่ง/ผู้ร่วมงาน: มณฑิชา พุทซาคำ
จักรพันธ์ นันทพงศ์
มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สำนักบัณฑิตศึกษา
วรินธร มณีรัตน์
คำสำคัญ: มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สาขาวิชาเกษตรศาสตร์และสหกรณ์--วิทยานิพนธ์
มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. วิชาเอกการจัดการทรัพยากรเกษตร--วิทยานิพนธ์
ไข่--การผลิต
วันที่เผยแพร่: 2566
สำนักพิมพ์: มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช
บทคัดย่อ: การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา 1) ระดับการเสริมกาบกล้วยในอาหารต่ออัตราการให้ไข่  2) ระดับการเสริมกาบกล้วยในอาหารต่อน้ำหนักไข่ 3) ระดับของการเสริมกาบกล้วยในอาหารต่อน้ำหนักไก่ไข่  และ 4) ต้นทุนค่าอาหารไก่ไข่ที่ได้รับอาหารเสริมกาบกล้วยระดับต่าง ๆ การวิจัยนี้เป็นการวิจัยเชิงทดลอง วางแผนการทดลองแบบสุ่มสมบูรณ์ หน่วยทดลองคือไก่ไข่พันธุ์โรมันบราว์อายุ 62 สัปดาห์ จำนวน 90 ตัว ถูกสุ่มออกเป็น 3 ทรีตเมนต์ ทรีตเมนต์ละ 3 ซ้ำ ซ้ำละ 10 ตัว ไก่ไข่ทดลองแต่ละทรีตเมนต์ได้รับอาหารแตกต่างกันดังนี้ ทรีตเมนต์ที่ 1 ได้รับอาหารสำเร็จรูปทางการค้า (กลุ่มควบคุม) ทรีตเมนต์ที่ 2 และ 3 ได้รับอาหารสำเร็จรูปทางการค้าและกาบกล้วย 16.67  และ 37.50 เปอร์เซ็นต์ของปริมาณอาหารที่กินต่อตัวต่อวัน ตามลำดับ วิเคราะห์ความแปรปรวนของข้อมูลและเปรียบเทียบค่าเฉลี่ยระหว่าง ทรีตเมนต์โดยวิธี Duncan’s New Multiple Range Test ผลการวิจัยพบว่า 1) อัตราการให้ไข่มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p<0.05) โดยไก่ไข่ทรีตเมนต์ที่ 1 มีอัตราการให้ไข่สูงสุด และไก่ไข่ทรีตเมนต์ที่ 3 มีอัตราการให้ไข่ต่ำสุด 2) น้ำหนักไข่รวมและ น้ำหนักไข่เฉลี่ยต่อฟองมีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p<0.05) โดยทรีตเมนต์ที่ 1 มีน้ำหนักไข่รวมและน้ำหนักไข่เฉลี่ยต่อฟองสูงสุด ในขณะที่ทรีตเมนต์ที่ 3 มีน้ำหนักใข่รวมและน้ำหนักไข่เฉลี่ยต่อฟองต่ำสุด 3) ไก่ไข่ทรีตเมนต์ที่ 1 มีน้ำหนักเฉลี่ยต่อตัวที่สัปดาห์ที่ 4 และ 8 ของการทดลองแตกต่างจากทรีตเมนต์อื่นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p<0.05) ในขณะที่ไก่ไข่ทรีตเมนต์ที่ 2 และ 3 มีน้ำหนักเฉลี่ยต่อตัวไม่แตกต่างกันทางสถิติ (p>0.05) 4) ทรีตเมนต์ที่ 1 มีต้นทุนค่าอาหารเฉลี่ยต่อตัวสูงสุด ในขณะที่ทรีตเมนต์ที่ 3 มีต้นทุนค่าอาหารเฉลี่ยต่อตัวต่ำสุด สำหรับต้นทุนค่าอาหารเฉลี่ยต่อไข่ 1 ฟองมีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p<0.05) โดยทรีตเมนต์ที่ 1 มีต้นทุนค่าอาหารเฉลี่ยต่อไข่ 1 ฟองต่ำสุด และทรีตเมนต์ที่ 3 มีต้นทุนค่าอาหารเฉลี่ยต่อไข่ 1 ฟองสูงสุด
รายละเอียด: วิทยานิพนธ์ (กษ.ม. (การจัดการทรัพยากรเกษตร))--มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช, 2566
URI: https://ir.stou.ac.th/handle/123456789/13530
ปรากฏในกลุ่มข้อมูล:Agri-Theses

แฟ้มในรายการข้อมูลนี้:
แฟ้ม รายละเอียด ขนาดรูปแบบ 
2589002191.pdf2.26 MBAdobe PDFดู/เปิด


รายการทั้งหมดในระบบคิดีได้รับการคุ้มครองลิขสิทธิ์ มีการสงวนสิทธิ์เว้นแต่ที่ระบุไว้เป็นอื่น