กรุณาใช้ตัวระบุนี้เพื่ออ้างอิงหรือเชื่อมต่อรายการนี้:
https://ir.stou.ac.th/handle/123456789/1571
ชื่อเรื่อง: | วิถีชีวิตครอบครัวของชาวชุมชนบุญนิยมสันติอโศก กรุงเทพมหานคร |
ชื่อเรื่องอื่นๆ: | Family way of life among Boonniyom Santi Asoke Community in Bangkok |
ผู้แต่ง/ผู้ร่วมงาน: | จิตตินันท์ เดชะคุปต์ สุจิรา วัฒนะศรี, 2517- มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สำนักบัณฑิตศึกษา วัลภา สบายยิ่ง |
คำสำคัญ: | มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. วิชาเอกการพัฒนาครอบครัวและสังคม--วิทยานิพนธ์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สาขาวิชามนุษยนิเวศศาสตร์--วิทยานิพนธ์ สันติอโศก การใช้ชีวิตแบบพอเพียง |
วันที่เผยแพร่: | 2560 |
สำนักพิมพ์: | มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช |
บทคัดย่อ: | การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกมาวิถีชีวิตครอบครัวของชาวชุมชนบุญนิยมสันติอโศก กรุงเทพมหานคร เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพ ผู้ให้ข้อมูลสำคัญ แบ่งป็น 2 กลุ่ม ได้แก่ 1) กลุ่มครอบครัวที่เป็นสมาชิกชุมชนบุญนิยมสันติอโศก กรุงเทพมหานคร จำนวน 4 ครอบครัว ได้แก่ บิดา มารดาและบุตร จำนวน 16 คน ที่ใช้ชีวิตอยู่ในชุมชนบุญนิยมสันติอโศกไม่ต่ำกว่า 2 ปี และมีบุตรอายุต่ำกว่า 18 ปี อาศัยอยู่ด้วยกัน 2) กลุ่มผู้เกี่ยวข้องกับครอบครัวที่ศึกษา จำนวน 4 คน ได้แก่ นักบวชหญิง คนวัด สมาชิกชุมชนและญาติธรรม ผลการวิจัย พบว่าครอบครัวที่ศึกษาตัดสินใจเข้ามาใช้ชีวิตอยู่ในชุมชนบุญนิยมสันติอโศก กรุงเทพมหานคร มีเหตุจูงใจที่เกิดจากความต้องการภายใน และภายนอกครอบครัว โดยเหตุจูงใจภายในครอบคลุม การมีชีวิตที่สงบและพอเพียง การเห็นคุณค่าในตนเอง และการแสวงหาธรรมะ ส่วนเหตุจูงใจภายนอกครอบคลุมรูปแบบสังคมที่น่าอยู่อาศัย การเกื้อกูลต่อกันทางศรษฐกิฐ ความสะดวกสบาย และความปลอดภัยของสภาพเวดล้อม และความศรัทธต่อสมณะ โพธิรักษ์ ซึ่งหลังจากที่เข้ามาใช้ชีวิตอยู่ในชุมชนดังกล่วแล้ว พบว่า มีการปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตครอบครัวตามเอกลักษณ์ของชาวชุมชนบุญนิยมสันติอโศก โดยเฉพาะการเปลี่ยนแปลงวิธีคิด บุคลิกภาพ ชีวิตความป็นอยู่ และปฏิสัมพันระหว่างสมาชิกครอบครัว อีกทั้งพบว่า วิถีชีวิตปัจจุบันของครอบครัวเหล่านี้มีความเชื่อมโยงกับชุมชนอย่างใกล้ชิด ในรูปแบบของ "บ้าน-วัด-โรงเรียน" โดยเป็นการใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันเสมือนครอบครัวใหญ่ กินใช้ร่วมกันด้วยระบบสาธารณโภคี มีบริบทชุมชนที่เอื้อต่อการดำรงชีวิต มีความอุดมสมบูรณ์และพอเพียงในเรื่องของปัจจัย 4 และมีธรรมะเป็นเครื่องหล่อเลี้ยงจิตใจ ทั้งนี้หลักคิดการใช้ชีวิตครอบครัวแบบบุญนิยมสันติโศก ประกอบด้วย 1) การเข้าถึงความหมายที่แท้จริงของชีวิต เป็นการเห็นคุณค่าในตนเอง และการมีชีวิตที่ไม่เบียดเบียนทั้งตนเองและผู้อื่น 2) การใช้ชีวิตที่พอเพียง เป็นการตระหนักถึงความพอเหมาะพอดี และไม่ดิ้นรนแสวงหาไม่อยากได้อะไรเกินความจำเป็น มีความสมถะ มักน้อย สันโดษ 3) การเต็มใจให้การช่วยเหลือเกื้อกูลผู้อื่น เป็นการตระหนักถึงคุณค่าของการให้ มีจิตเมตตา เอื้อเฟื้อเกื้อกูลผู้อื่น ยินดีให้ประโยชน์ผู้อื่น มากกว่าประโยชน์ส่วนตน โดยไม่ได้หวังสิ่งตอบแทน 4) การใช้ชีวิตอย่างมีระเบียบ เป็นการตระหนักถึงการใช้ชีวิตที่ต้องมีหลักยึดของศีล และหลักปฏิบัติต่าง ๆ ของชาวอโศกที่ทุกคนในชุมชนยอมรับและทำตาม คือ ถือศีล 5 ละอบายมุข การรับประทานอาหารมังสวิรัติ และการอยู่ร่วมกันด้วยระบบสาธารณโภคี ซึ่งหมายถึง การบริโภคเป็นสาธารณะ แบ่งกันกินแบ่งกันใช้ ไม่สะสมส่วนตัว ไม่กอบโกย ทรัพย์ที่หามาได้จะเป็นของส่วนกลาง |
รายละเอียด: | วิทยานิพนธ์ (ศศ.ม. (การพัฒนาครอบครัวและสังคม))--มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช, 2560 |
URI: | http://ir.stou.ac.th/handle/123456789/1571 |
ปรากฏในกลุ่มข้อมูล: | Hum-Theses |
แฟ้มในรายการข้อมูลนี้:
แฟ้ม | รายละเอียด | ขนาด | รูปแบบ | |
---|---|---|---|---|
fulltext_161791.pdf | เอกสารฉบับเต็ม | 9.67 MB | Adobe PDF | ดู/เปิด |
รายการนี้ได้รับอนุญาตภายใต้ Creative Commons License