Please use this identifier to cite or link to this item:
https://ir.stou.ac.th/handle/123456789/1801
Title: | ความพึงพอใจในการปฏิบัติงานของนักวิชาการส่งเสริมการเกษตร สำนักงานเกษตร จังหวัดนครพนม |
Other Titles: | Work satisfaction of agricultual extensionists in Nakhon Phanom Provincial Agricultual Office |
Authors: | พรชุลีย์ นิลวิเศษ, อาจารย์ที่ปรึกษา บำเพ็ญ เขียวหวาน, อาจารย์ที่ปรึกษา ศรัณยา ชูรัตน์, 2517- มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สำนักบัณฑิตศึกษา |
Keywords: | มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. แขนงวิชาส่งเสริมการเกษตร --วิทยานิพนธ์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สาขาวิชาเกษตรศาสตร์และสหกรณ์ --วิทยานิพนธ์ นักวิชาการส่งเสริมการเกษตร--การทำงาน ความพอใจในการทำงาน |
Issue Date: | 2556 |
Publisher: | มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช |
Abstract: | การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา 1) สภาพพื้นฐานบางประการของนักวิชาการส่งเสริมการเกษตร 2) ความพึงพอใจในการปฏิบัติงานของนักวิชาการส่งเสริมการเกษตร 3) ปัญหาและข้อเสนอแนะในการปฏิบัติงานของนักวิชาการส่งเสริมการเกษตร ผลการวิจัย พบว่า (1) นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรส่วนใหญ่เป็นเพศชาย อายุเฉลี่ย 44.84 ปี สมรสแล้ว จบการศึกษาระดับปริญญาตรี เป็นผู้ปฏิบัติงานตาแหน่งชานาญงาน/ชานาญการ รายได้เฉลี่ย 29,357.98 บาท อายุการทางานเฉลี่ย 20.02 ปี (2) นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรมีความพึงพอใจระดับมากในภาพรวม รวมทั้งหัวข้อความภูมิใจต่อองค์กรที่สร้างประโยชน์ต่อสังคม สภาพแวดล้อมในการทางาน งานในความรับผิดชอบ ภาวะผู้นาและวัฒนธรรมในองค์กร และการสื่อสารในองค์กร ส่วนโอกาสและความก้าวหน้าทางอาชีพในองค์กร การรักษาดุลยภาพระหว่างชีวิตการทางานและชีวิตส่วนตัว และค่าตอบแทนและสวัสดิการ ความพึงพอใจอยู่ในระดับปานกลาง (3) ปัญหาในการปฏิบัติงานของนักวิชาการส่งเสริมการเกษตรอยู่ในระดับปานกลางในภาพรวม รวมทั้งหัวข้อสภาพแวดล้อมในการทางาน งานในความรับผิดชอบ ค่าตอบแทนและสวัสดิการ โอกาสและความก้าวหน้าทางอาชีพในองค์กร การรักษาดุลยภาพระหว่างชีวิตการทางานและชีวิตส่วนตัว ภาวะผู้นาและวัฒนธรรมในองค์กร และการสื่อสารในองค์กร ส่วนความภูมิใจต่อองค์กรที่สร้างประโยชน์ต่อสังคมมีปัญหาอยู่ในระดับน้อย มีข้อเสนอแนะด้านงานในความรับผิดชอบว่าควรมอบหมายงานโดยยึดหลักความรู้ความสามารถ ด้านสภาพแวดล้อมในการทางานควรมีอุปกรณ์ทันสมัยเพียงพอ มีการปรับปรุงสถานที่ให้สะอาดสวยงาม ด้านภาวะผู้นาและวัฒนธรรมในองค์กรควรพิจารณาแต่งตั้งผู้มีความรู้ความสามารถและปกครองโดยหลักธรรมาภิบาล ด้านค่าตอบแทนและสวัสดิการควรมีอย่างเพียงพอตามค่าครองชีพ ด้านโอกาสและความก้าวหน้าทางอาชีพในองค์กร ควรพิจารณาเลื่อนขั้นตามหลักเกณฑ์ ด้านการรักษาดุลยภาพระหว่างชีวิตการทางานและชีวิตส่วนตัว ไม่ควรมอบงานมากจนไม่มีเวลาให้ครอบครัว ด้านการสื่อสารในองค์กรควรสั่งการชัดเจนเข้าใจง่ายไม่เร่งด่วน และด้านความภาคภูมิใจต่อองค์กรที่สร้างประโยชน์ต่อสังคมควรมีกิจกรรมร่วมกับหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน |
Description: | วิทยานิพนธ์ (กษ.ม. (ส่งเสริมการเกษตร))--มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช, 2556 |
URI: | http://ir.stou.ac.th/handle/123456789/1801 |
Appears in Collections: | Agri-Theses |
Files in This Item:
File | Description | Size | Format | |
---|---|---|---|---|
141000.pdf | เอกสารฉบับเต็ม | 25.75 MB | Adobe PDF | View/Open |
This item is licensed under a Creative Commons License