Please use this identifier to cite or link to this item: https://ir.stou.ac.th/handle/123456789/1986
Title: การพัฒนารูปแบบบันทึกทางการพยาบาลในห้องคลอด โรงพยาบาลค่ายสุรนารี จังหวัดนครราชสีมา
Other Titles: The development of a nursing record model for the delivery room at fort Suranari Hospital in Nakhon Ratchasima province
Authors: สมใจ พุทธาพิทักษ์ผล, อาจารย์ที่ปรึกษา
วัลลภา บุญรอด, อาจารย์ที่ปรึกษา
สุมิตรา มิ่งมิตร, 2501-
มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สำนักบัณฑิตศึกษา
Keywords: มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. แขนงวิชาการบริหารการพยาบาล -- วิทยานิพนธ์
มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สาขาวิชาพยาบาลศาสตร์ -- วิทยานิพนธ์
โรงพยาบาลค่ายสุรนารี
การพยาบาล
พยาบาล
การทำงาน
Issue Date: 2554
Publisher: มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช
Abstract: การวิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วมนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนารูปแบบบันทึกทางการพยาบาล ใน ห้องคลอด โรงพยาบาลค่ายสุรนารี จังหวัดนครราชสีมา กลุ่มเป้าหมายคือ พยาบาลวิชาชีพที่ปฏิบัติงานในห้องคลอด โรงพยาบาลค่ายสุรนารี ทั้งหมด จำนวน 10 คน การวิจัยแบ่งเป็น3 ระยะ ได้แก่ (1) ศึกษาสถานการณ์การบันทึกทางการพยาบาล ในห้องคลอดโดยทบทวน วรรณกรรม สุ่มเวชระเบียนผู้คลอด จำนวน 30 ราย เพื่อประเมินความถูกต้องและสมบูรณ์ของบันทึกทางการพยาบาล และ สัมภาษณ์เจาะลึกพยาบาลวิชาชีพ 6 คน (2) พัฒนารูปแบบบันทึกทางการพยาบาลในห้องคลอด โรงพยาบาลค่ายสุรนารี โดยการจัดสนทนากลุ่ม 2 ครั้ง (3) นำรูปแบบไปทดลองใช้ในห้องคลอด โรงพยาบาลค่าย สุรนารี เป็นเวลา 3 เดือน ประเมินและปรับปรุงรูปแบบโดยการสนทนากลุ่มประเมินความสมบูรณ์ของบันทึก ทางการพยาบาล จากเวชระเบียนทุก 1 เดือน รวม 2 ครั้ง และ ให้พยาบาลวิชาชีพประเมินความพึงพอใจต่อรูปแบบบันทึกทางการพยาบาลก่อนและหลังการปรับปรุง เครื่องมือที่ใซ้ในการวิจัยประกอบด้วย แบบประเมินความสมบูรณ์ของบันทึกทางการพยาบาล ในเวชระเบียนซึ่งกองการพยาบาลโรงพยาบาลค่ายสุรนารี พัฒนาขึ้นและแบบประเมินความพึงพอใจต่อการใช้รูปแบบบันทึกทางการพยาบาลในห้องคลอด ที่ผู้วิจัยสร้างขึ้น วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการวิเคราะห์เนื้อหา ผลการวิจัย พบว่า ระยะที่ 1 แบบฟอร์มที่ใช้ในการบันทึกทางการพยาบาล ในห้องคลอดมี จำนวน มากเกินไป มีการบันทึกกิจกรรมการพยาบาลเดียวกันในหลายแบบฟอร์ม ขาดการมอบหมายผู้บันทึกในแต่ละ ขั้นตอนอย่างชัดเจน หัวข้อในแบบการวินิจฉัยและวางแผนการพยาบาลไม่ครอบคลุม และความสมบูรณ์ของบันทึก ทางการพยาบาลในเวชระเบียน เท่ากับร้อยละ 72.24 ซึ่งต่ำกว่าเกณฑ์ที่กองการพยาบาลกำหนดไว้คือ รัอยละ 80 ระยะที่ 2 การพัฒนารูปแบบ ได้แก่ การกำหนดจำนวนแบบฟอร์ม การบันทึกให้คงเทลือ 4 แบบฟอร์ม ได้แก่ 1) แบบประเมินสภาพแรกรับ 2) แบบการวินิจฉัยและวางแผนการพยาบาล 3) แบบพาโทกราฟ และ ง) ใบสรุป ประวัติการคลอดโดยปรับหัวข้อในแบบวินิจฉัยและวางแผนการพยาบาล ให้ชัดเจน กำหนดผู้บันทึก ในแต่ละ ขั้นตอน ระยะที่ 3 การนำรูปแบบไปทดลองใช้ในห้องคลอดและปรับปรุง ผลการประเมินความสมบูรณ์ของ การบันทึกทางการพยาบาลในเวชระเบียนผู้คลอด หลังทดลองใช้ 2 ครั้ง พบว่า เพิ่มขึ้นเป็นรัอยละ 91.35 และ 93.43 ตามลำดับ และความพึงพอใจของพยาบาลวิชาชีพต่อการใช้รูปแบบบันทึกทางการพยาบาลก่อนและหลัง การปรับปรุงเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 60.21 เป็นร้อยละ 69.40
Description: วิทยานิพนธ์ (พย.ม. (การบริหารการพยาบาล))--มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช, 2554
URI: http://ir.stou.ac.th/handle/123456789/1986
Appears in Collections:Nurse-Theses

Files in This Item:
File Description SizeFormat 
Thesbib125072.pdfเอกสารฉบับเต็ม14.43 MBAdobe PDFView/Open


This item is licensed under a Creative Commons License Creative Commons