Please use this identifier to cite or link to this item: https://ir.stou.ac.th/handle/123456789/2542
Title: ศึกษาการเปลี่ยนแปลงรายได้ของเกษตรกรในโครงการแปลงสินทรัพย์เป็นทุน : กรณีศึกษาเกษตรกรในเขตปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมอำเภอตระการพืชผล จังหวัดอุบลราชธานี
Other Titles: A study of income change of farmers under the assets capitalization policy : the case study of Trakanphutpron Land Reform Beneficiaries, Ubonratchatanee Province
Authors: ศิริพร สัจจานันท์, อาจารย์ที่ปรึกษา
วรรณภา ไชยทอง, 2520-
มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สาขาวิชาเศรษฐศาสตร์
Keywords: มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. แขนงวิชาเศรษฐศาสตร์ -- การศึกษาเฉพาะกรณี
มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สาขาวิชาเศรษฐศาสตร์ -- การศึกษาเฉพาะกรณี
โครงการแปลงสินทรัพย์เป็นทุน
เกษตรกร -- รายได้
Issue Date: 2550
Publisher: มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช
Abstract: การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาการเปลี่ยนแปลงรายได้ของเกษตรกรหลังจาก เข้าร่วมโครงการแปลงสินทรัพย์เป็นทุน รวมถึงศึกษาปัญหาและอุปสรรคของเกษตรกรในการเข้าร่วม โครงการของเกษตรกรในเขตปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม อำเภอตระการพืชผล จังหวัดอุบลราชธานี กลุ่มตัวอย่างในการศึกษาคือเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการแปลงสินทรัพย์เป็นทุนเฉพาะผู้ ได้รับเงินกู้จากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) สาขาอำเภอตระการพืชผล จังหวัดอุบลราชธานี ที่ยังคงมีหนี้เงินกู้คงเหลืออยู่กับธนาคาร ณ 31 มีนาคม พ.ศ. 2551 (ปีบัญชี 2550) การศึกษานี้ได้ข้อมูลปฐมภูมิจากแบบสอบถามและการสัมภาษณ์เกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการ จำนวน 100 ตัวอย่าง และข้อมูลทุติยภูมิจากส่วนงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องใช้วิธีการวิเคราะห์ข้อมูลเบื้องต้นโดยใช้สถิติเชิงพรรณนา (Descriptive Method) และใช้การทดสอบด้วยเทคนิควิเคราะห์การถดถอย ได้แก่ การใช้ค่าเฉลี่ย ค่าร้อยละ ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน โดยการวิเคราะห์หาความสัมพันธ์ของปัจจัยตัวแปรอิสระ มีผลต่อตัวแปรตาม หรือ การเปลี่ยนแปลงรายได้ของเกษตรกร ผลการศึกษาพบว่าเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการ ส่วนใหญ่มีรายได้ทั้งภาคการเกษตรและ รายได้นอกภาคการเกษตรอยู่ในระดับที่เพิ่มสูงขึ้นคือร้อยละ 80 เมื่อเทียบกับรายได้ก่อนได้รับเงินกู้ และมีเพียงบางส่วนที่มีรายได้ภาคการเกษตรและรายได้นอกภาคการเกษตรคงที่คือร้อยละ 19 เมื่อเทียบ กับรายได้ก่อนได้รับเงินกู้ และมีเพียงส่วนน้อยมากที่มีรายได้ลดลงคือร้อยละ 1 ซึ่งตัวแปรรายได้ก่อน กู้นอกภาคการเกษตรมีระดับนัยสำคัญเท่ากับ .012 ค่าใช้จ่ายภาคการเกษตรมีระดับนัยสำคัญเท่ากับ .040 จำนวนการรอครองที่ดินมีระดับนัยสำคัญเท่ากับ .045 จำนวนเงินกู้ที่ได้รับในโครงการแปลง สินทรัพย์เป็นทุนมีระดับนัยสำคัญเท่ากับ .003 การเข้ารับการอบรมจากโครงการมีระดับนัยสำคัญ เท่ากับ .045 ซึ่งสามารถนำมาใข้พยากรณ์รายได้หลังได้รับเงินกู้ภาคการเกษตรได้อย่างมีนัยสำคัญทาง สถิติ สำหรับปัญหาและอุปสรรคในการเข้าร่วมโครงการของเกษตรกร ได้แก่ การได้รับเงินกู้ไม่ เพียงพอต่อความต้องการ ไม่ได้รับการอบรมจากส่วนราชการที่เกี่ยวข้องกับโครงการ
URI: http://ir.stou.ac.th/handle/123456789/2542
Appears in Collections:Econ-Independent study

Files in This Item:
File Description SizeFormat 
119255.pdfเอกสารฉบับเต็ม3.95 MBAdobe PDFView/Open


This item is licensed under a Creative Commons License Creative Commons