Please use this identifier to cite or link to this item: https://ir.stou.ac.th/handle/123456789/2701
Title: ปัจจัยที่มีผลต่อการตัดสินใจออมเงินของสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์สาธารณสุขกระบี่ จำกัด
Other Titles: Factors affecting to saving decision of members of Saving Cooperative of Public Health Krabi Province Limited
Authors: สุจิตรา รอดสมบุญ, อาจารย์ที่ปรึกษา
นุชนาฏ พรสุริยา
มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สาขาวิชาเกษตรศาสตร์และสหกรณ์
Keywords: มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สาขาวิชาเกษตรศาสตร์และสหกรณ์ --การศึกษาเฉพาะกรณี
มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. แขนงวิชาสหกรณ์ --การศึกษาเฉพาะกรณี
สหกรณ์ออมทรัพย์สาธารณสุขกระบี่--สมาชิก--การเงินส่วนบุคคล
การออมกับการลงทุน
การศึกษาอิสระ--สหกรณ์
Issue Date: 2562
Publisher: มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช
Abstract: การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา 1) ปัจจัยส่วนบุคคลของสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ สาธารณสุขกระบี่ จำกัด ที่มีผลต่อการตัดสินใจออมเงิน 2) ปัจจัยส่วนประสมการตลาดที่มีผลต่อการตัดสินใจออม เงิน และ 3) ข้อเสนอแนะในการปรับปรุงและพัฒนาการให้บริการของสหกรณ์ออมทรัพย์สาธารณสุขกระบี่ จำกัด ประชากรที่ศึกษา คือสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์สาธารณสุขกระบี่ จำกัด ณ วันสิ้นปี บัญชี 31 ธันวาคม 2561 จำนวน 2,884 รายศึกษาจากกลุ่มตัวอย่างจำนวน 351 รายได้จากการคำนวณของทาโร่ ยามาเน่ ที่ค่าความคลาดเคลื่อน 0.05 โดยใช้แบบสอบถามในการเก็บรวบรวมข้อมูลด้วยวิธีการสุ่มตัวอย่างอย่างง่าย สถิติที่ ใช้ ได้แก่ ความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน สถิติทดสอบไคสแควร์ที่ระดับนัยสำคัญทางสถิติ 0.01 และการวิเคราะห์เนื้อหา ผลการศึกษา พบว่า 1) สมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์สาธารณสุขกระบี่ จำกัด กลุ่มตัวอย่าง ส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง อายุระหว่าง 31 – 40 ปี การศึกษาระดับปริญญาตรี สถานภาพสมรส อาชีพรับราชการ ระยะเวลาการเป็นสมาชิก 10 ปี ขึ้นไป รายได้ของครัวเรือนต่อเดือน มากกว่า 30,000 บาท รายจ่ายของครัวเรือนต่อ เดือน มากกว่า 15,000 บาท จำนวนผู้มีรายได้ในครอบครัว 2 คน ขนาดของครอบครัวมากกว่า 3 คน จำนวน หนี้สินทั้งหมด มากกว่า 200,000 บาท และสาเหตุที่เลือกออมเงินกับสหกรณ์ เพราะได้รับเงินปันผล การตัดสินใจ ออมเงิน พบว่า ส่วนใหญ่มีการออมประเภทเงินฝากออมทรัพย์ทั่วไปจำนวนเงินออมต่อครั้ง 1,001 – 5,000 บาท จำนวนเงินออมรวมในสหกรณ์ 10,001 – 50,000 บาท จำนวนเงินออมเฉลี่ยต่อเดือน 1,001 – 5,000 บาท มี รูปแบบการออมเงินคือ การออมเงินแบบฝากออมทรัพย์และวัตถุประสงค์ของการออมเงิน เพื่อใช้ยามฉุกเฉินหรือ เจ็บป่วย 2) ปัจจัยส่วนประสมการตลาด พบว่า โดยรวมสมาชิกมีระดับการตัดสินใจต่อการใช้บริการ ด้าน ผลิตภัณฑ์ ด้านราคา ด้านช่องทางการจัดจำหน่าย ด้านส่งเสริมการตลาด ด้านบุคลากรที่ให้บริการ ด้านลักษณะ ทางกายภาพ และด้านกระบวนการ อยู่ในระดับมาก ปัจจัยส่วนบุคคลที่มีความสัมพันธ์กับการตัดสินใจออมเงิน คือ เพศ อายุ ระดับการศึกษา สถานภาพการสมรส สถานภาพของบุคลากร ระยะเวลาการเป็นสมาชิก รายได้ หนี้สินทั้งหมด และสาเหตุที่เลือกออมกับสหกรณ์ ปัจจัยส่วนประสมการตลาดที่มีความสัมพันธ์กับการตัดสินใจ ออมเงิน คือ ด้านบุคลากรที่ให้บริการ ด้านลักษณะทางกายภาพ และด้านกระบวนการ 3) ข้อเสนอแนะคือ ควรเปิด บริการในวันหยุดนักขัตฤกษ์ และวันหยุดเสาร์ – อาทิตย์ และควรปรับปรุงระบบเทคโนโลยีสารสนเทศการ ให้บริการแก่สมาชิกให้มีความทันสมัยมากขึ้น
URI: https://ir.stou.ac.th/handle/123456789/2701
Appears in Collections:Agri-Independent study

Files in This Item:
File Description SizeFormat 
164436.pdfเอกสารฉบับเต็ม16.88 MBAdobe PDFView/Open


This item is licensed under a Creative Commons License Creative Commons