กรุณาใช้ตัวระบุนี้เพื่ออ้างอิงหรือเชื่อมต่อรายการนี้: https://ir.stou.ac.th/handle/123456789/3189
ชื่อเรื่อง: การพัฒนาการบริหารงานกลุ่มเกษตรกรในจังหวัดฉะเชิงเทรา
ชื่อเรื่องอื่นๆ: Development administration of farmer group in Chachoengsao Province
ผู้แต่ง/ผู้ร่วมงาน: ศิริลักษณ์ นามวงศ์, อาจารย์ที่ปรึกษา
รุ่งนะภา กลัดเจริญ
มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สาขาวิชาเกษตรศาสตร์และสหกรณ์
คำสำคัญ: มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สาขาวิชาเกษตรศาสตร์และสหกรณ์ --การศึกษาเฉพาะกรณี
มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. แขนงวิชาสหกรณ์ --การศึกษาเฉพาะกรณี
เกษตรกร--การบริหาร.--ไทย--ฉะเชิงเทรา
การศึกษาอิสระ--สหกรณ์
วันที่เผยแพร่: 2561
สำนักพิมพ์: มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช
บทคัดย่อ: การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาสภาพแวดล้อมการบริหารงานของกลุ่มเกษตรกร 2) ศึกษาปัญหาและอุปสรรคการบริหารงานของกลุ่มเกษตรกร และ 3) เสนอแนวทางการพัฒนาการบริหารงานกลุ่มเกษตรกรในจังหวัดฉะเชิงเทรา ประชากรในการศึกษา คือ สมาชิกกลุ่มเกษตรกรที่ดำเนินงานในจังหวัดฉะเชิงเทรา ณ วันที่ 1 ตุลาคม 2551 จำนวน 2,424 คน กำหนดขนาดกลุ่มตัวอย่าง จำนวน 343 คน โดยใช้สูตรของ Taro Yamane ที่ค่าความคลาดเคลื่อน 0.05 และใช้วิธีการเลือกตัวอย่างแบบบังเอิญ เก็บรวบรวมข้อมูลโดยใช้แบบสอบถาม วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติพรรณนา ได้แก่ ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการวิเคราะห์เนื้อหา ผลการศึกษาพบว่า 1) กลุ่มเกษตรกรส่วนใหญ่ ร้อยละ 63.16 เป็นกลุ่มเกษตรกรขนาดเล็ก มีทุนดำเนินงานไม่เกิน 1,000,000 บาท จำนวน 12 กลุ่ม บริหารงานโดยคณะกรรมการทำหน้าที่แทนฝ่ายจัดการ เนื่องจากกลุ่มเกษตรกร ร้อยละ 78.95 มีกำไรไม่เพียงพอในการจ้างพนักงานประกอบกับผลการดำเนินงานของกลุ่มเกษตรกรขาดทุนมีปริมาณธุรกิจไม่เกิน 2,000,000 บาท ร้อยละ 63.16 ไม่มีสำนักงานและวัสดุอุปกรณ์ในการดำเนินงาน ร้อยละ 78.95 และบริหารงานแบบช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ร้อยละ 78.95 สำหรับการบริหารงานตามแนวคิดของแมคคินซีย์ สมาชิกเห็นว่ากลุ่มเกษตรกรมีการบริหารอยู่ในระดับมากทุกด้าน คือ ด้านกลยุทธ์ ด้านโครงสร้าง ด้านระบบการปฏิบัติงาน ด้านรูปแบบการบริหาร ด้านบุคลากร ด้านทักษะ และด้านค่านิยม ตามลำดับ ซึ่งกลุ่มเกษตรกรในจังหวัดฉะเชิงเทรา ร้อยละ 63.16 ผ่านเกณฑ์มาตรฐานกลุ่มเกษตรกรของกรมส่งเสริมสหกรณ์ 2) ปัญหาอุปสรรคในการบริหารงานที่พบ คือ กลุ่มเกษตรกรร้อยละ 89.47 ไม่สามารถจัดทำงบดุลรอบปี 12 เดือนแล้วเสร็จ และไม่สามารถจัดส่งให้ผู้สอบบัญชีรับรองได้ภายในเวลา 150 วัน หลังจากสิ้นปีบัญชี เนื่องมาจากไม่มีพนักงานบัญชีกลุ่มเกษตรกรร้อยละ 78.95 ไม่มีสำนักงานและวัสดุอุปกรณ์เนื่องจากไม่มีกำไรเพียงพอในการจัดซื้อกลุ่มเกษตรกรร้อยละ 26.32 มีผลการดำเนินงานประจำปี 2561 ขาดทุน เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจตกต่ำและเงินทุนในการดำเนินงานไม่เพียงพอ ต้องหาแหล่งเงินทุนจากสถาบันการเงิน ต้องจ่ายอัตราดอกเบี้ยสูง ส่งผลให้มีค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานสูงแต่รายได้ไม่เพิ่มขึ้น และ 3) การพัฒนาการบริหารงานกลุ่มเกษตรกรควรจัดหาแหล่งเงินทุนอัตราดอกเบี้ยต่ำ เพื่อลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน คณะกรรมการต้องพัฒนาการบริหารงานกลุ่มเกษตรกรให้ผ่านเกณฑ์หรือรักษาเกณฑ์มาตรฐานของกรมส่งเสริมสหกรณ์ โดยนำแนวคิดของแมคคินซีย์มาปรับใช้ในการบริหารงานกลุ่มเกษตรกรเพื่อสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนอัตราดอกเบี้ยต่ำของกรมส่งเสริมสหกรณ์
URI: https://ir.stou.ac.th/handle/123456789/3189
ปรากฏในกลุ่มข้อมูล:Agri-Independent study

แฟ้มในรายการข้อมูลนี้:
แฟ้ม รายละเอียด ขนาดรูปแบบ 
161880.pdfเอกสารฉบับเต็ม14.74 MBAdobe PDFดู/เปิด


รายการนี้ได้รับอนุญาตภายใต้ Creative Commons License Creative Commons