ปัจจัยที่มีผลต่อการออมเงินของสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์โรงพยาบาลทักษิณ จำกัด จังหวัดสุราษฎร์ธานี

Abstract

การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา 1) ปัจจ้ยส่วนบุคคลของสมาชิกสหกรณ์ 2) ปัจจัยที่มีผลต่อการออมเงินของสมาชิกสหกรณ์ และ 3) ปัญหา อุปสรรค และข้อเสนอแนะในการออมเงินของสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์โรงพยาบาลทักษิณ จำกัด จังหวัดสุราษฎร์ธานี ประชากรที่ศึกษา คือ สมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์โรงพยาบาลทักษิณ จำกัด โดยศึกษาจากกลุ่มตัวอย่างจำนวน 172 คน เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ แบบสอบถาม สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าไคสแควร์ และการวิเคราะห์เนื้อหา ผลการศึกษา พบว่า 1) สมาชิกสหกรณ์ส่วนใหญ่เพศหญิง อายุระหว่าง 31 - 40 ปี การศึกษาสูงสุดระดับปริญญาตรี สถานภาพสมรส จำนวนสมาชิกในครอบครัว 1 – 3 คน จำนวนสมาชิกที่ต้องอุปการะ 1 – 2 คน เป็นสมาชิกสหกรณ์ 1 – 3 ปี รายได้ต่อเดือน 30,001 – 40,000 บาท ค่าใช้จ่ายในการบริโภคต่อเดือน 30,001 – 40,000 บาท และส่วนใหญ่ไม่มีหนี้สินต่อสหกรณ์ การออมเงินกับสหกรณ์ส่วนใหญ่มีหุ้นรายเดือนและซื้อหุ้นพิเศษ การฝากเงินกับ สหกรณ์ร้อยละ 17.41ของสมาชิก วัตถุประสงค์การออมส่วนใหญ่เพื่อใช้จ่ายยามฉุกเฉินและการซื้อที่อยู่อาศัย 2) ปัจจัยที่มีผลต่อการออมเงินทั้ง การซื้อหุ้นพิเศษและการฝากเงินของสมาชิกสหกรณ์ ได้แก่ (1) ระดับ ความสำคัญของปัจจัยด้านสหกรณ์อยู่ในระดับมากที่สุดทุกด้านดังนี้ ด้านอื่นที่เกี่ยวข้องได้แก่ หน่วยงานราชการสนับสนุน และความเชื่อมมั่นในระบบสหกรณ์ ด้านการบริการ ด้านทำ เลที่ตั้ง ด้านการประชาสัมพันธ์ และด้านผลตอบแทน ตามลำดับ (2) ปัจจัยส่วนบุคคลของสมาชิกที่มีผลต่อการออมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิต คือ อายุ ระดับ การศึกษา จำนวนสมาชิกในครอบครัว จำนวนสมาชิกที่ต้องอุปการะ ระยะเวลาการเป็นสมาชิก รายได้ของครอบครัว ค่าใช้จ่ายของครอบครัว ภาระหนี้สินรวมต่อสหกรณ์ และ (3) ปัจจัยด้านสหกรณ์ที่มีผลต่อการออมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิต ได้แก่ ปัจจัยด้านผลตอบแทน ปัจจัยด้านการบริการ ปัจจัยด้านการประชาสัมพันธ์ และปัจจัยด้านทำเลที่ตั้ง และปัจจัยด้านอื่นๆที่เกี่ยวข้อง แต่มีตัวแปรย่อยบางตัวแปรเท่านั้น ที่ไม่มีผลต่อการออมของสมาชิกอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ 3) ปัญหาอุปสรรค และข้อเสนอแนะ ควรเพิ่มอัตราดอกเบี้ยเงินฝากให้มากขึ้น เพิ่มอัตราเงินปันผลและสวัสดิการต่างๆ ให้ครอบคลุม