กรุณาใช้ตัวระบุนี้เพื่ออ้างอิงหรือเชื่อมต่อรายการนี้:
https://ir.stou.ac.th/handle/123456789/4163
ชื่อเรื่อง: | การถอดถอนบุคคลออกจากตำแหน่งของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง |
ชื่อเรื่องอื่นๆ: | Removal of a person holding a oolitical position from office |
ผู้แต่ง/ผู้ร่วมงาน: | ภาณุมาศ ขัดเงางาม มณีรัตน์ เพ็งไชโย, 2531- มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สาขาวิชานิติศาสตร์ |
คำสำคัญ: | มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สาขาวิชานิติศาสตร์--การศึกษาเฉพาะกรณี มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. วิชาเอกกฎหมายมหาชน--การศึกษาเฉพาะกรณี การถอดถอนจากตำแหน่ง นักการเมือง การศึกษาอิสระ--กฎหมายมหาชน |
วันที่เผยแพร่: | 2559 |
สำนักพิมพ์: | มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช |
บทคัดย่อ: | การค้นคว้าอิสระ เรื่อง การถอดถอนบุคคลออกจากตำแหน่งของผู้ดำรงทางการเมือง มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาแนวคิดและทฤษฎีที่เกี่ยวข้องกับการการถอดถอนบุคคลออกจากตำแหน่งของผู้ดำรงตำแหน่งในทางการเมือง ตลอดจนศึกษาเปรียบเทียบกับกระบวนการถอดถอนบุคคลออกจากตำแหน่งของผู้ดำรงตำแหน่งในทางการเมืองและผู้ดำรงตำแหน่งระดับสูงในองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ และสภาพปัญหาองค์กรผู้ทำหน้าที่ในการถอดถอนบุคคลออกจากตำแหน่งของต่างประเทศ ได้แก่ ประเทศสหรัฐอเมริกาและประเทศฝรั่งเศส ทั้งนี้ เพื่อให้ทราบถึงข้อสรุปที่เป็นแนวทางในการกำหนดรูปแบบองค์กรผู้ทำหน้าที่ในการถอดถอนบุคคลออกจากตำแหน่งของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองของประเทศไทยได้อย่างเหมาะสมและมีประสิทธิภาพต่อไป การศึกษาค้นคว้าอิสระนี้เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพจากเอกสาร โดยเป็นการศึกษาจากตำราทางวิชาการในทางกฎหมายมหาชน การเมืองการปกครองเป็นหลัก โดยวิเคราะห์จากเอกสารที่เกี่ยวข้องทั้งภาษาไทยและภาษาต่างประเทศ ข้อมูลจากเว็บไซต์ ทางเครือข่ายอินเตอร์เน็ต ประกอบกับข้อมูลที่ผู้วิจัยได้รับจากประสบการณ์ตรงในการทำงานมาประกอบเป็นหลักฐานในการอ้างอิงมาวิเคราะห์ศึกษาเปรียบเทียบกับแนวคิดของต่างประเทศเพื่อให้ทราบถึงผลสรุปของการวิจัยและแนวทางการปรับปรุงปัญหาเรื่องดังกล่าว ซึ่งผู้ศึกษามั่นใจว่าข้อมูลที่ได้จากการค้นคว้าเป็นข้อมูลที่แท้จริงและถูกต้องน่าเชื่อถือได้ ผลการศึกษาพบว่าปัญหาที่นำไปสู่ความล้มเหลวในการควบคุมและตรวจสอบการใช้อำนาจของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองในกระบวนการถอดถอนบุคคลออกจากตำแหน่งที่ไม่สามารถถ่วงดุลการใช้อำนาจรัฐ ทั้ง 3 ฝ่าย ได้แก่ ฝ่ายนิติบัญญัติ ฝ่ายบริหาร และฝ่ายตุลการ ระหว่างด้วยกันเองได้ รวมถึงไม่สามารถนำตัวผู้กระทำความผิดมาลงโทษหรือขับออกจากตำแหน่งได้ โดยมาจากปัญหาหลัก คือ “การกำหนดองค์กรและกระบวนการ การถอดถอนบุคคลออกจากตำแหน่งของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง” ดังนั้น เพื่อให้การถอดถอนบุคคลออกจากตำแหน่งของประเทศไทยสามารถที่จะควบคุมและตรวจสอบการใช้อำนาจของบุคคลผู้ดำรงตำแหน่งสำคัญที่อยู่ ในฝ่ายนิติบัญญัติ ฝ่ายบริหาร และฝ่ายตุลาการ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีรูปแบบและกระบวนการที่ชัดเจน ผู้ศึกษาเสนอแนะแนวทางให้มีการปรับปรุงองค์กรผู้ทำหน้าที่ในการถอดถอนบุคคลออกจากตำแหน่งขึ้นใหม่โดยใช้รูปแบบ “ศาลพิเศษ” เรียกว่า “ศาลอาญาแห่งรัฐสภา” และการลงมติในการถอดถอนบุคคลให้ใช้คะแนนเสียงกึ่งหนึ่งขึ้นไปขององค์คณะตุลาการ หรือให้มีการรวมอำนาจการถอดถอนบุคคลผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองไว้ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ทั้งนี้ เพื่อให้กระบวนการถอดถอนบุคคลออกจากตำแหน่งเป็นมาตรการที่สำคัญที่ทำให้บุคคลผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองได้ตระหนักทุกครั้งที่ใช้อำนาจรัฐในการปฏิบัติหน้าที่ |
URI: | https://ir.stou.ac.th/handle/123456789/4163 |
ปรากฏในกลุ่มข้อมูล: | Law-Independent study |
แฟ้มในรายการข้อมูลนี้:
แฟ้ม | รายละเอียด | ขนาด | รูปแบบ | |
---|---|---|---|---|
Fulltext.pdf | เอกสารฉบับเต็ม | 15.03 MB | Adobe PDF | ดู/เปิด |
รายการนี้ได้รับอนุญาตภายใต้ Creative Commons License