Please use this identifier to cite or link to this item: https://ir.stou.ac.th/handle/123456789/5850
Title: การนำกระบวนการยุติธรรมเชิงสมานฉันท์มาใช้กับการกระทำความผิดทางอาญาในศาลเยาวชนและครอบครัว
Other Titles: The application of the restorative justice in the criminal proceedings in the juvenile and family court
Authors: วรรณวิภา เมืองถ้ำ, อาจารย์ที่ปรึกษา
ชนันท์กานต์ ตันตรา, 2523-
มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สาขาวิชานิติศาสตร์
Keywords: มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. วิชาเอกกฎหมายอาญาและกระบวนการยุติธรรม --การศึกษาเฉพาะกรณี
มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สาขาวิชานิติศาสตร์ --การศึกษาเฉพาะกรณี
กระบวนการยุติธรรมทางอาญา
กระบวนการยุติธรรมเชิงสมานฉันท์
การศึกษาอิสระ--กฎหมายอาญาและกระบวนการยุติธรรม
Issue Date: 2559
Publisher: มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช
Abstract: การศึกษาค้นคว้าอิสระนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาแนวคิด ทฤษฎีเกี่ยวกับการลงโทษ ความเป็นมา แนวคิด รูปแบบและขั้นตอนของกระบวนการยุติธรรมเชิงสมานฉันท์ ตลอดจนข้อดี ข้อเสีย ของการนำกระบวนการยุติธรรมเชิงสมานฉันท์มาปรับใช้ในการกระทำความผิดทางอาญาของเด็กและเยาวชนในชั้นศาล ควบคู่กับกระบวนการยุติธรรมกระแสหลัก เพื่อหาแนวทางในการพัฒนารูปแบบที่เหมาะสมและวิธีการต่าง ๆ มาใช้กับการกระทำความผิดทางอาญาของเด็กและเยาวชน เพื่อนำไปสู่การพัฒนาให้คดีอาญาที่เด็กหรือเยาวชน เป็นผู้กระทำความผิด สามารถระงับได้โดยวิธีการอื่น นอกเหนือจากการนำตัวผู้กระทำความผิดมาลงโทษ แต่เพียงอย่างเดียวการศึกษาค้นคว้าอิสระนี้เป็นวิจัยเชิงคุณภาพด้วยวิธีการวิจัยจากเอกสารซึ่งทำการรวบรวมเอกสาร ทั้งจากตำรา บทความ หนังสือ วิทยานิพนธ์ งานวิจัย ผลงานทางวิชาการ ตัวบทกฎหมาย รวมตลอดถึงข้อมูลทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ที่เกี่ยวข้อง ผลการศึกษาพบว่า การดำเนินการตามมาตรการพิเศษแทนการดำเนินคดีอาญาตามพระราชบัญญัติ จัดตั้งศาลเยาวชนและครอบครัวและวิธีพิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัว พ.ศ. 2553 เป็นเพียงการนำแนวคิดของกระบวนการยุติธรรมเชิงสมานฉันท์มาปรับใช้ แต่ไม่ได้นำกระบวนการนี้มาใช้ให้เป็นรูปธรรม และไม่ได้นำ มาบัญญัติเป็นข้อกฎหมายเพื่อบังคับใช้ ทำให้ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในกระบวนการนี้ไม่นำมาใช้อย่างจริงจัง เป็นเพียงการใช้ดุลพินิจเท่านั้น เห็นควรนำกระบวนการยุติธรรมเชิงสมานฉันท์มาใช้กับคดีอาญาที่เด็กหรือเยาวชนกระทำความผิดอย่างเป็นรูปธรรมมากที่สุด จะเป็นการกลั่นกรองเด็กและเยาวชนที่มีความประพฤติที่เบี่ยงเบน เพื่อค้นหาถึงสาเหตุในการกระทำความผิดของเด็กหรือเยาวชนที่มีความประพฤติที่เบี่ยงเบน เพราะสาเหตุการกระทำความผิดของเด็กและเยาวชนแตกต่างกับผู้ใหญ่ภายใต้เงื่อนไขที่ว่าเด็กและเยาวชนควรจะได้รับโอกาสแก้ไขความประพฤติและปรับปรุงตัวเองให้เข้ากับสภาพแวดล้อมของครอบครัวและสังคมมากกว่าด้วยการใช้วิธีการลงโทษด้วยการจำคุก ดังนั้น ควรมีการปรับปรุงกฎหมายให้สามารถใช้กระบวนการยุติธรรมเชิงสมานฉันท์กับการกระทำความผิดทางอาญาของศาลเยาวชนและครอบครัว กำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการตลอดจนข้อตกลงในประชุมเยียวยาและฟื้นฟูความสัมพันธ์ตามกระบวนการยุติธรรมเชิงสมานฉันท์ และมีกลไกในการพัฒนาให้เป็นรูปธรรม เพื่อให้เกิดประโยชน์ที่ดีต่อสังคมและส่วนรวมต่อไป
URI: https://ir.stou.ac.th/handle/123456789/5850
Appears in Collections:Law-Independent study

Files in This Item:
File Description SizeFormat 
fulltext_156060.pdfเอกสารฉบับเต็ม3.88 MBAdobe PDFView/Open


This item is licensed under a Creative Commons License Creative Commons