Please use this identifier to cite or link to this item: https://ir.stou.ac.th/handle/123456789/6858
Title: ประสิทธิภาพของการผลิตเมื่อได้ดำเนินงานตามมาตรฐานสากลการปฏิบัติทางการเกษตรที่ดี : กรณีศึกษา บริษัทสยามไวเนอรี่ เทรดดิ้ง พลัส จำกัด
Authors: สุวีณา ตั่งโพธิสุวรรณ, อาจารย์ที่ปรึกษา
ประเสริฐ สุทธิประสิทธิ์, อาจารย์ที่ปรึกษา
ชาวไร่ กาญจโนมัย, 2511-
มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สำนักบัณฑิตศึกษา
Keywords: มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. แขนงวิชาบริหารธุรกิจ -- วิทยานิพนธ์
มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สาขาวิชาวิทยาการจัดการ -- วิทยานิพนธ์
องุ่น -- การปลูก
หลักเกณฑ์และวิธีการที่ดีในการผลิต
Issue Date: 2555
Publisher: มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช
Abstract: การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา (1) ข้อกำหนดการจัดการไร่องุ่นไวน์ ตามมาตรฐานสากล การปฏิบัติทางการเกษตรที่ดี (2) การนำระบบมาตรฐานสากลการปฏิบัติทางการเกษตรที่ดี มาประยุกต์ใช้ในธุรกิจไร่องุ่น (3) ประสิทธิภาพการผลิตองุ่น เมื่อได้ดำเนินงานตามมาตรฐานสากลการปฏิบัติทางการเกษตรที่ดี การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยตรวจสอบ โดยได้มีการพัฒนาร่างข้อกำหนดการปฏิบัติทางการเกษตรที่ดี (GAP) สำหรับองุ่น จากนั้นนำมาประยุกต์ใช้ในการจัดการของไร่องุ่นหัวหินฮิลส์ บริษัทสยามไวเนอรี่ เทรดดิ้งพลัส จำกัด ซึ่งตั้งอยู่ที่ ตำบลหนองพลับ อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคิรีขันธ์ แล้วรวบรวมข้อมูลจาก ปริมาณผลผลิต ผลผลิตต่อไร่ คุณภาพผลผลิต และต้นทุนผันแปร นำมาวิเคราะห์ประสิทธิภาพการผลิต เปรียบเทียบระหว่างปีที่ปฏิบัติตามมาตรฐานสากลการปฎิบัติทาง การเกษตรที่ดี (2010 และ 2011)และปี ที่ยังไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานสากลการปฎิบัติทางการเกษตรที่ดี (2009) โดยใช้สถิติเชิง พรรณาในการวิเคราะห์ คือ ค่าเฉลี่ย และค่าร้อยละ ผลการวิจัยพบว่า (1) ข้อกำหนดประกอบด้วย เกณฑ์กำหนด และวิธีตรวจประเมิน ตามมาตรฐานสากล การปฏิบัติทางการเกษตรที่ดี (GAP) สำหรับองุ่น มีหัวข้อของข้อกำหนด ดังนี้คือ 1) แหล่งน้า 2) พื้นที่ปลูก 3) การใช้วัตถุ อันตรายทางการเกษตร 4) การจัดการในกระบวนการผลิตก่อนเก็บเกี่ยว 5) การเก็บเกี่ยวและการปฏิบัติหลังการเก็บเกี่ยว 6) การเก็บรักษาและขนย้าย 7) สุขลักษณะส่วนบุคคล และ 8) การบันทึกข้อมูลและการตามสอบ (2) ขั้นตอนการนำร่าง มาตรฐานสากลการปฏิบัติทางการเกษตรที่ดี (GAP) มาประยุกต์ใช้ในธุรกิจไร่องุ่น มีขั้นตอนดังนี้ 1) ให้ความรู้กับหัวหน้า งาน คนงาน และผู้เกี่ยวข้อง 2) ดัดแปลงตารางการให้สารเคมี จากบันทึกช่วยจำเป็นโปรแกรมซอฟ์ แวร์ 3) มีการวิเคราะห์ ดินเป็นประจำ 4) ปลูกปอเทืองก่อนทำแปลงองุ่นและใส่ปุ๋ยคอกทุกปี 5) ใส่ปุ๋ยเคมีไปกับระบบน้า หยดเพื่อเป็นการใช้น้ำ อย่างมีประสิทธิภาพ 6) มีการปลูกพันธ์องุ่นที่ต้านทานโรคและแมลงเพิ่มขึ้น ทำให้ใช้สารเคมีน้อยลง 7) มีการเก็บเกี่ยวใน เวลาที่เหมาะสมรวมทั้งทำการวิเคราะห์สารตกค้างด้วย 8) มีการใช้เครื่องจักรที่ทันสมัยและปรับปรุงระบบการบำรุงรักษา เครื่องจักรอย่างเป็นระบบ พร้อมทำบันทึกการทำงานซึ่งสามารถตรวจสอบได้ตลอดเวลา 9) พนักงานและคนงานมีรายได้ และสวัสดิการอย่างเหมาะสมซึ่งสามารถดำรงชีพได้อย่างมีความสุข และก้าวหน้าในหน้าที่การงาน (3) เมื่อมีการปรับปรุง ระบบการทำงานตามมาตรฐานสากลการปฏิบัติทางการเกษตรที่ดีแล้ว ทำให้ประสิทธิภาพการผลิตดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเจน โดยปริมาณผลผลิตองุ่นแดงเพิ่มขึ้นจากปี 2009 เป็นร้อยละ 117.65 และ 190.43 ในปี 2010 และ 2011 ตามลำดับ และองุ่น เขียวเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 256.77 และ 319.77ตามลำดับ สำหรับผลผลิตต่อไร่ องุ่นแดงเพิ่มขึ้นจากปี 2009 เป็นร้อยละ 129.31 และ 172.41 ในปี 2010 และ 2011 ตามลำดับ และองุ่นเขียวเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 113.89 และ 151.39 ตามลำดับ และสำหรับ คุณภาพผลผลิตจะวัดจากเปอร์เซ็นต์ความหวาน โดยองุ่นแดงเพิ่มขึ้นจากปี 2009 เป็นร้อยละ 2.77 และ 4.95 ในปี 2010 และ 2011 ตามลำดับ และองุ่นเขียวเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 11.01 และ 10.22 ตามลำดับ ส่วนต้นทุนผันแปรเฉลี่ยต่อไร่ มีแนวโน้มลดลง โดยลดลงร้อยละ 5.00ในปี 2011
URI: https://ir.stou.ac.th/handle/123456789/6858
Appears in Collections:Manage-Theses

Files in This Item:
File Description SizeFormat 
134115.pdfเอกสารฉบับเต็ม5.22 MBAdobe PDFView/Open


This item is licensed under a Creative Commons License Creative Commons