Please use this identifier to cite or link to this item: https://ir.stou.ac.th/handle/123456789/7039
Title: การศึกษาเพื่อพัฒนาการบริหารภาษีโรงเรือนและที่ดินขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในจังหวัดเชียงใหม่
Other Titles: Study of the development of house and land tax administration of Local Government Organizations in Chiang Mai Province
Authors: จีระ ประทีป
ศิริกานดา รัตนงาม
มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สำนักบัณฑิตศึกษา
เสน่ห์ จุ้ยโต
Keywords: องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น--การบริหาร--ไทย--เชียงใหม่
ภาษีโรงเรือนและที่ดิน--ไทย
Issue Date: 2552
Publisher: มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช
Abstract: การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) ศึกษาการบริหารภาษีโรงเรือนและที่ดินขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในจังหวัดเชียงใหม่ (2) ศึกษาปัญหาการบริหารภาษีโรงเรือนและที่ดินขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในจังหวัดเชียงใหม่ (3) เสนอแนวทางการพัฒนาการบริหารภาษีโรงเรือนและที่ดินขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในจังหวัดเชียงใหม่โดยศึกษาจากประชากรทั้งหมด คือ หัวหน้าส่วนการคลังองค์การบริหารส่วนตำบล จำนวน 154 คน ผู้อำนวยการกองคลังเทศบาลตำบล จำนวน 54 คน ผู้อำนวยการกองคลังเทศบาลเมือง จำนวน 2 คน และผู้อำนวยการสำนักการคลังเทศบาลนคร จำนวน 1 คน ในจังหวัดเชียงใหม่ รวมทั้งสิ้น 210 คน การเก็บรวบรวมข้อมูลใช้แบบสอบถามและแบบสัมภาษณ์ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลการวิจัยพบว่า (1) การบริหารภาษีโรงเรือนและที่ดินขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในจังหวัดเชียงใหม่ มีหัวหน้าหน่วยงานคลังเป็นผู้จัดทำประมาณการรายได้โดยใช้ข้อมูลจากรายรับจริงของปีงบประมาณที่ผ่านมาเป็นเกณฑ์ การเตรียมการเพื่อรับชำระภาษีมีการประชุมวางแผนการจัดเก็บและสำรวจผู้อยู่ในข่ายชำระภาษี การดำเนินการรับชำระภาษีเมื่อผู้รับประเมินมายื่นแบบแจ้งรายการทรัพย์สินเจ้าพนักงานประเมินได้แจ้งประเมินทันที และการติดตามและเร่งรัดการจัดเก็บภาษีได้มีการทำหนังสือแจ้งเดือนให้มาชำระภาษี (2) ปัญหาสำคัญของการบริหารภาษีโรงเรือนและที่ดิน คือ การประมาณการรายได้ โดยใช้ข้อมูลจากรายรับจริงของปีงบประมาณที่ผ่านมาเป็นเกณฑ์ยอดการประมาณการจึงต่างจากยอดการจัดเก็บภาษีจริง ผู้เสียภาษีขาดความรู้ความเข้าใจในระเบียบกฎหมายที่เกี่ยวข้อง การดำเนินการจัดเก็บในเรื่องอำนาจในการเปรียบเทียบปรับเป็นของอำเภอ การติดตามและเร่งรัดการจัดเก็บภาษีประสบปัญหาผู้เสียภาษีเลิกกิจการโดยไม่แจ้งให้ทราบ (3) แนวทางการพัฒนาควรใช้ข้อมูลจากผู้อยู่ในข่ายต้องชำระภาษีมาประกอบการจัดทำประมาณการรายได้ ควรจัดอบรมให้ความรู้ในเรื่องของระเบียบกฎหมายที่เกี่ยวข้องให้แก่ผู้เสียภาษี ส่วนอำนาจในการเปรียบเทียบปรับควรเป็นขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และควรสำรวจข้อมูลผู้อยู่ในข่ายที่ต้องชำระภาษีอย่างสม่ำเสมอตลอดทั้งปีงบประมาณ
Description: วิทยานิพนธ์ (บธ.ม. (บริหารรัฐกิจ))--มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช, 2552
URI: https://ir.stou.ac.th/handle/123456789/7039
Appears in Collections:Manage-Theses

Files in This Item:
File Description SizeFormat 
114867.pdfเอกสารฉบับเต็ม8.16 MBAdobe PDFView/Open


This item is licensed under a Creative Commons License Creative Commons