กรุณาใช้ตัวระบุนี้เพื่ออ้างอิงหรือเชื่อมต่อรายการนี้: https://ir.stou.ac.th/handle/123456789/7086
ชื่อเรื่อง: การมีส่วนร่วมของอาสาสมัครคุมประพฤติในการแก้ไขฟื้นฟูผู้กระทำผิดในชุมชนในสังกัดสำนักงานคุมประพฤติภาค 7
ชื่อเรื่องอื่นๆ: Participation of volunteer probation officers in the community - based offenders rehabilitation services of the Probation Office Region 7
ผู้แต่ง/ผู้ร่วมงาน: ปภาวดี มนตรีวัต, อาจารย์ที่ปรึกษา
เฉลิมพงศ์ มีสมนัย, อาจารย์ที่ปรึกษา
ธารินี แสงสว่าง, 2510-
มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สำนักบัณฑิตศึกษา
คำสำคัญ: มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. แขนงวิชาบริหารรัฐกิจ -- วิทยานิพนธ์
มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สาขาวิชาวิทยาการจัดการ -- วิทยานิพนธ์
อาสาสมัครคุมประพฤติ
การคุมประพฤติ -- การมีส่วนร่วมของประชาชน
วันที่เผยแพร่: 2557
สำนักพิมพ์: มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช
บทคัดย่อ: การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) ศึกษาระดับการมีส่วนร่วมของอาสาสมัครคุมประพฤติใน การแก้ไขฟื้นฟูผู้กระทำผิดในชุมชนในสังกัดสำนักงานคุมประพฤติภาค 7 (2) ศึกษาความสัมพันธ์ระหว่าง ปัจจัยพื้นฐานของอาสาสมัครคุมประพฤติกับการมีส่วนร่วมของอาสาสมัครคุมประพฤติในการแก้ไขฟื้นฟู ผู้กระทำผิดในชุมชนในสังกัดสำนักงานคุมประพฤติภาค 7 (3) เปรียบเทียบระดับการมีส่วนร่วมของอาสาสมัคร คุมประพฤติในการแก้ไขฟื้นฟูผู้กระทำผิดในชุมชน ในสังกัดสำนักงานคุมประพฤติภาค 7 จำแนกตามพื้นที่ (4) ศึกษาแนวทางในการสร้างเสริมการมีส่วนร่วมของอาสาสมัครคุมประพฤติในการแก้ไขฟื้นฟูผู้กระทำผิด ในสังกัดสำนักงานคุมประพฤติภาค 7 การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงสำรวจ ประชากร 1,235 คน ประกอบ้วย อาสาสมัครคุมประพฤติ ในการแก้ไขฟื้นฟูผู้กระทำผิดในชุมชนในสังกัดสำนักงานคุมประพฤติภาค 7 จำนวน 1,212 คน ผู้บริหารระดับสูง ทั้งหมด และ บุคลากรทั้งหมดในเขตสำนักงานคุมประพฤติภาค 7 จำนวน 23 คน กลุ่มตัวอย่าง 324 คน ประกอบด้วยผู้บริหารระดับสูงและบุคลากรทั้งหมดของสำนักงานคุมประพฤติภาค 7 จำนวน 23 คน และ อาสาสมัครคุมประพฤติในการแก้ไขฟื้นฟูผู้กระทำผิดในชุมชนในสังกัดสำนักงานคุมประพฤติภาค 7 จำนวน 301 คน คำนวณจากสูตรของทาโร่ ยามาเน่ สุ่มตัวอย่างแบบบังเอิญ เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยได้แก่ แบบสอบถามและ แบบสัมภาษณ์ สถิติที่ใช้ได้แก่ ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และค่าสัมประสิทธ์ิ สหสัมพันธ์เพียร์สัน ผลการวิจัยพบว่า (1) การมีส่วนร่วมของอาสาสมัครคุมประพฤติ ในภาพรวมอยู่ในระดับมาก โดยด้านการมีส่วนร่วมคิด มีค่าเฉลี่ยสูงสุด (2) ปัจจัยพื้นฐานที่ส่งเสริมการมีส่วนร่วมมีความสัมพันธ์ทางบวกกับ การมีส่วนร่วมของอาสาสมัครคุมประพฤติอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 โดยปัจจัยด้านความสามารถมีค่า ความสัมพันธ์สูงสุด (3) ผลการเปรียบเทียบ พบว่า อาสาสมัครคุมประพฤติ สำนักงานคุมประพฤติจังหวัดเพชรบุรี มีส่วนร่วมสูงสุด และอาสาสมัครคุมประพฤติ สำนักงานคุมประพฤติจังหวัด สุพรรณบุรี มีส่วนร่วมต่ำ สุด (4) แนวทางสำคัญ ในการส่งเสริมการมีส่วนร่วม ได้แก่ กรมคุมประพฤติควรพัฒนาความรู้ของอาสาสมัครคุม ประพฤติ เพื่อให้สามารถเข้ามามีส่วนร่วมกับ สำนักงานคุมประพฤติในการวิเคราะห์ปัญหาผู้กระทำผิด ส่งเสริม การมีส่วนร่วมกำหนดแผนงานเชิงรุกด้วยการมอบหมายให้เป็นผู้จัดกิจกรรมต่างๆ เพื่อการแก้ไขฟื้นฟูผู้กระทำผิด ในชุมชน สนับสนุนด้านงบประมาณและวัสดุอุปกรณ์ในการทำงานให้เพียงพอ และส่งเสริมให้อาสาสมัครคุม ประพฤติบริหารจัดการศูนย์ป์ระสานงานอาสาสมัครคุมประพฤติด้วยตนอง
URI: https://ir.stou.ac.th/handle/123456789/7086
ปรากฏในกลุ่มข้อมูล:Manage-Theses

แฟ้มในรายการข้อมูลนี้:
แฟ้ม รายละเอียด ขนาดรูปแบบ 
144954.pdfเอกสารฉบับเต็ม2.05 MBAdobe PDFดู/เปิด


รายการนี้ได้รับอนุญาตภายใต้ Creative Commons License Creative Commons