กรุณาใช้ตัวระบุนี้เพื่ออ้างอิงหรือเชื่อมต่อรายการนี้: https://ir.stou.ac.th/handle/123456789/7478
ชื่อเรื่อง: การพัฒนารูปแบบการแก้ปัญหาความยากจนของชุมชนในประเทศไทย
ชื่อเรื่องอื่นๆ: Model development of community poverty solving in Thailand
ผู้แต่ง/ผู้ร่วมงาน: จำเนียร ราชแพทยาคม
วิบูลย์ รัตนาภรณ์วงศ์, 2503-
มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สำนักบัณฑิตศึกษา
สุภมาส อังศุโชติ
วราภรณ์ รุ่งเรืองกลกิจ
คำสำคัญ: มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สาขาวิชาวิทยาการจัดการ--วิทยานิพนธ์
มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. รัฐประศาสนศาสตร์--วิทยานิพนธ์
ความจน--ไทย
การแก้ปัญหา
วันที่เผยแพร่: 2562
สำนักพิมพ์: มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช
บทคัดย่อ: การวิจัยในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) พัฒนารูปแบบการแก้ปัญหาความยากจนของชุมชนในประเทศไทย และ (2) นารูปแบบการแก้ปัญหาความยากจนไปตรวจสอบกับข้อมูลเชิงประจักษ์ในชุมชนตัวอย่าง การวิจัยนี้เป็นการวิจัยแบบผสมวิธี โดยมีการยกร่างเป็นรูปแบบการแก้ปัญหาความยากจนของชุมชนในประเทศไทย ก่อนนำไปตรวจสอบกับข้อมูลเชิงปริมาณด้วยการสอบถามหัวหน้าหน่วยงานที่มีหน้าที่เกี่ยวข้องกับการแก้ปัญหาความยากจน 181 แห่ง และกลุ่มตัวอย่างครัวเรือนยากจน 10 จังหวัดที่มีสัดส่วนคนยากจนสูงสุด 400 ครัวเรือน โดยใช้วิธีการสุ่มอย่างง่าย เก็บข้อมูลโดยใช้แบบสอบถาม วิเคราะห์ข้อมูลเชิงปริมาณด้วยค่าความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การวิเคราะห์องค์ประกอบเชิงยืนยัน และการวิเคราะห์โมเดลสมการโครงสร้าง จากนั้นยืนยันรูปแบบฯ กับข้อมูลเชิงคุณภาพด้วยวิธีการสนทนากลุ่ม 6 ชุมชนจาก 6 ภาค ของประเทศไทย โดยใช้เครื่องมือแบบสนทนากลุ่ม แล้วจึงตรวจสอบรูปแบบฯ กับข้อมูลเชิงประจักษ์ของชุมชน ตัวอย่าง 2 ชุมชนในจังหวัดชุมพร โดยใช้แบบบันทึกข้อมูลสภาพชุมชนและแบบตรวจสอบรายการกิจกรรม ผลการวิจัย (1) จากการวิเคราะห์เชิงปริมาณพบว่า รูปแบบการแก้ปัญหาความยากจนของชุมชนในประเทศไทยที่พัฒนาขึ้น ประกอบด้วย 4 ตัวแปร ได้แก่ 1) มาตรการของรัฐและท้องถิ่น 2) แนวทางการดำเนินการของพฤติกรรมบุคคลและครอบครัว 3) แนวทางการดำเนินการของชุมชน และ 4) ผลการแก้ปัญหา ความยากจน มีความสอดคล้องกับข้อมูลเชิงปริมาณ โดยตัวแปรมาตรการของรัฐและท้องถิ่นมีอิทธิพลต่อผลการแก้ปัญหาความยากจนมากที่สุด โดยมีทั้งอิทธิพลทางตรงและมีอิทธิพลทางอ้อมผ่านอีกสองตัวแปรที่เหลือส่วนผลจากการสนทนากลุ่ม สอดคล้องเป็นไปตามผลการวิเคราะห์เชิงปริมาณ และรูปแบบดังกล่าวสามารถแก้ปัญหาความยากจนของชุมชนได้ และ (2) การตรวจสอบรูปแบบกับชุมชนตัวอย่าง 2 ชุมชน พบว่ามีความสอดคล้องกับข้อมูลเชิงประจักษ์ของชุมชนตัวอย่างทั้งสองแห่ง โดยภายหลังการดำเนินการตามรูปแบบฯมีผลการแก้ปัญหาความยากจน ด้านความสามารถในการเข้าถึงบริการพื้นฐานทางเศรษฐกิจและสังคม ดีขึ้นทั้งสองชุมชน ส่วนด้านสิ่งจำเป็นตามมาตรฐานการดำรงชีพ (จปฐ.) ได้รับการพัฒนา และด้านประชาชนมีรายได้มากกว่า 38,000.- บาท ต่อคนต่อปี พบว่า ผ่านเกณฑ์ทั้งสองชุมชน
รายละเอียด: วิทยานิพนธ์ (บธ.ม. (บริหารธุรกิจ))--มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช, 2562
URI: https://ir.stou.ac.th/handle/123456789/7478
ปรากฏในกลุ่มข้อมูล:Manage-Theses

แฟ้มในรายการข้อมูลนี้:
แฟ้ม รายละเอียด ขนาดรูปแบบ 
162526.pdfเอกสารฉบับเต็ม11.03 MBAdobe PDFดู/เปิด


รายการนี้ได้รับอนุญาตภายใต้ Creative Commons License Creative Commons