กรุณาใช้ตัวระบุนี้เพื่ออ้างอิงหรือเชื่อมต่อรายการนี้: https://ir.stou.ac.th/handle/123456789/7646
ชื่อเรื่อง: การนำหลักการบริหารจัดการบ้านเมืองที่ดีไปปฏิบัติ : ศึกษากรณีตำรวจชุมชนสัมพันธ์ในเขตกรุงเทพมหานคร
ชื่อเรื่องอื่นๆ: Principles of the good governance implementation to performance : a case study of police community relations in Bangkok Metropolis
ผู้แต่ง/ผู้ร่วมงาน: เทพศักดิ์ บุณยรัตพันธุ์
ถาวร สุวรรณไพฑูรย์
มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สำนักบัณฑิตศึกษา
สุรพร เสี้ยนสลาย
คำสำคัญ: ตำรวจชุมชนสัมพันธ์
การบริหารงานตำรวจ
การบริหารรัฐกิจ
วันที่เผยแพร่: 2552
สำนักพิมพ์: มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช
บทคัดย่อ: การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา (1) การนำหลักการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดีไปปฏิบัติกรณีตำรวจชุมชนสัมพันธ์ในเขตกรุงเทพมหานคร(2) ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อประสิทธิผลของการนำหลักการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดีไป ปฏิบัติ (3) อุปสรรคและเสนอแนะในการปฏิบัติงานของตำรวจชุมชนสัมพันธ์ให้ประสบความสำเร็จมากยิ่งขึ้นการศึกษาครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงสำรวจที่เน้นการวิจัยเชิงปริมาณ โดยมีประชากรเป็นข้าราชการตำรวจสังกัดในกองบัญชาการตำรวจนตรบาลจำนวน จำนวน 22,597 คน ทำการสุ่มตัวอย่างจากประชากรจำนวน 400 ตัวอย่าง ซึ่งใช้แบบสอบถามเป็นเครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูล แบบวัดผลครั้งเดียว การตรวจสอบคุณภาพเครื่องมือด้วยการความ เที่ยงตรงและความน่าเชื่อถือ ได้ค่าความเชื่อมั่นของแบบสอบถามเท่ากับ .8994 การวิเคราะห์ข้อมูลใช้ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ยเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบค่าที การวิเคราะห์ความแปรปรวนและการวิเคราะห์การถดถอยพหุผลการศึกษา พบว่า (1ประสิทธิผลของการนำหลักการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดีไปปฏิบัติกรณีตำรวจชุมชนสัมพันธ์ในเขตกรุงเทพมหานครอยู่ในระดับมากที่สุด โดยมีค่าเฉลี่ยรวมเท่ากับ 4.43 ซึ่งการนำหลักการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดีไปปฏิบัติของตำรวจชุมชนสัมพันธ์มีนัยสำคัญทางสถิติ ที่ระดับนัยสำคัญ 0.05 ซึ่งสอดคล้องกับการสมมติฐานที่ตั้งไว้ (2) พบว่า ตัวแปรอิสระทั้ง 3 ตัวแปร คือ คุณลักษณะของข้าราชการที่พึงประสงค์ การมีส่วนร่วมและการปฏิบัติงานตามกระบวนการจัดการบริหาร มีความสัมพันธ์เชิงบวกกับความสำเร็จในการปฏิบัติงานของงานตำรวจชุมชนสัมพันธ์ โดยทั้ง 3 ตัวแปรสามารถอธิบายได้ร้อยละ 38.6 (3) จากศึกษาข้อเสนอแนะคือ กระบวนการบริหารมีความสำคัญต่อความสำเร็จ ในการปฏิบัติงานดังนั้นผู้บริหารควรนำหลักการบริหารจัดการภาครัฐแนวใหม่มาใช้คือ 1. ควรส่งเสริมด้านคุณลักษณะของข้าราชการที่พึงประสงค์ 1 AM READY ให้บุคลากรตระหนักปฏิบัติอย่างภาคภูมิใจโดยเน้น ส่วนของ 1) การวางแผน : การวิเคราะห์สถานการณ์และให้กำหนดแผนงานระบุเป้าหมายให้ชัดเจนโดยใช้ประโยชน์ของการวิเคราะห์ SWOT 2) การจัดการ: หน่วยงานต้องใช้การวิเคราะห์ การเปรียบเทียบและควรลดขนาดหน่วยงานให้เล็กลง 3) ความพร้อมของบุคลากร: การประเมินระบบบริหารทรัพยากรบุคคล 4) การอำนวยการ : การบริหารเสริมแรงโดยใช้แบบการจูงใจ และมุ่งเน้นผลสัมฤทธิ์ และใช้ Key Performance indicator (KPI) เป็นตัววัดผลสำเร็จของงาน 5) การประสานงาน: การสื่อสารจากบนลงล่างและให้ความสำคัญจากล่างขึ้นบน และเน้นการทำงานเป็นกลุ่มงานเพื่อนำไปสู่การให้บริการที่มีคุณภาพแก่ประชาชน 6)การรายงานผล ควรใช้เครื่องมือมุ่งเน้นผลสัมฤทธิ์ และใช้ Key Performance indicator เป็นตัวรายงานผลด้วยความถูกต้อง 7) แปลงวิสัยทัศน์ ลงสู่เป้าหมายระดับต่างๆ จนถึงการปฏิบัติงาน และการมีส่วนร่วมโดยยึดแนวทางในประชาชนเป็นศูนย์กลางและนำระบบรางวัลคุณภาพมาตรฐานใช้เพื่อบรรลุจุดมุ่งหมาย
รายละเอียด: วิทยานิพนธ์ (บธ.ม. (บริหารรัฐกิจ))--มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช, 2552
URI: https://ir.stou.ac.th/handle/123456789/7646
ปรากฏในกลุ่มข้อมูล:Manage-Theses

แฟ้มในรายการข้อมูลนี้:
แฟ้ม รายละเอียด ขนาดรูปแบบ 
118930.pdfเอกสารฉบับเต็ม9.96 MBAdobe PDFดู/เปิด


รายการนี้ได้รับอนุญาตภายใต้ Creative Commons License Creative Commons