Please use this identifier to cite or link to this item:
https://ir.stou.ac.th/handle/123456789/8004
Title: | การอุทิศที่ดินให้เป็นที่สาธารณประโยชน์ |
Other Titles: | Dedication of land to be public land |
Authors: | กมลชัย รัตนสกาววงศ์ อภิวัตร ชาญนอก, 2527- มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สาขาวิชานิติศาสตร์ |
Keywords: | มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สาขาวิชานิติศาสตร์--การศึกษาเฉพาะกรณี มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. วิชาเอกกฎหมายมหาชน--การศึกษาเฉพาะกรณี ที่ดินสาธารณะ การศึกษาอิสระ--กฎหมายมหาชน |
Issue Date: | 2561 |
Publisher: | มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช |
Abstract: | การศึกษาค้นคว้าอิสระนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) ศึกษาความเป็นมาแนวคิดและทฤษฎีหลักกฎหมายเกี่ยวกับการอุทิศที่ดินให้เป็นที่สาธารณประโยชน์ (2) ศึกษากฎหมายที่เกี่ยวกับการอุทิศที่ดินให้เป็นที่สาธารณประโยชน์ในประเทศไทย (3) วิเคราะห์ปัญหาเกี่ยวกับการอุทิศที่ดินให้เป็นที่สาธารณประโยชน์ และ (4) เสนอแนะแนวทางแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับการอุทิศที่ดินให้เป็นที่สาธารณประโยชน์ การศึกษาค้นคว้าอิสระฉบับนี้ใช้วิธีวิจัยเชิงคุณภาพ ด้วยวิธีการวิจัยเอกสาร โดยศึกษาค้นคว้ารวบรวมข้อมูลจากแหล่งต่างๆ ได้แก่ กฎหมาย หนังสือ ข้อหารือ ความเห็นทางกฎหมาย วิทยานิพนธ์ สารนิพนธ์ บทความต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับการอุทิศที่ดินให้เป็นที่สาธารณประโยชน์ ผลการศึกษาพบว่า (1) การอุทิศที่ดินให้เป็นที่ดินสาธารณประโยชน์นั้น คือ การที่เอกชนยอมสละกรรมสิทธิ์ในที่ดินของตนเองเพื่อให้ประชาชนทั่วไปได้ใช้ประโยชน์ในที่ดินตามวัตถุประสงค์ของการอุทิศที่ดินนั้นโดยไม่จำกัดเฉพาะบุคคลใดบุคคลหนึ่งหรือกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งเท่านั้น จากการศึกษาการอุทิศที่ดินของประเทศออสเตรเลียและประเทศสหรัฐอเมริกาพบว่าประเทศออสเตรเลียมีเพียงการอุทิศที่ดินโดยชัดแจ้งเท่านั้น ส่วนประเทศสหรัฐอเมริกามีการอุทิศที่ดินอยู่ 3 รูปแบบ ได้ การอุทิศที่ดินโดยชัดแจ้ง โดยปริยาย และโดยนัย ซึ่งการอุทิศที่ดินโดยชัดแจ้งของออสเตรเลียและสหรัฐอเมริกามีความเหมือนกันคือ จะต้องมีการพิจารณากลั่นกรองจากหน่วยงานของรัฐในการรับการอุทิศที่ดินก่อนว่าควรจะรับการอุทิศหรือไม่ ซึ่งหน่วยงานของรัฐสามารถพิจารณารับการอุทิศที่ดินนั้นได้หากเห็นว่าเป็นประโยชน์ หรืออาจให้ ผู้อุทิศที่ดินไปดำเนินการแก้ไขสาธารณูปโภคให้อยู่ในสภาพดีก่อน หรือจะกำหนดให้ผู้อุทิศที่ดินชดใช้เป็นเงินให้กับหน่วยงานของรัฐเพื่อการดูแลรักษาที่ดินสาธารณประโยชน์นั้น ก็ได้ ส่วนการอุทิศที่ดินโดยปริยาย และโดยนัย ของสหรัฐอเมริกาซึ่งเป็นกฎหมายคอมมอนลอว์ ก็จะมีการพิจารณาเป็นรายกรณีไป (2) การอุทิศที่ดินของประเทศไทยนั้นสามารถกระทำได้ 2 วิธีคือการอุทิศที่ดินโดยชัดแจ้งและการอุทิศโดยปริยาย (3) การอุทิศทั้ง 2 วิธี ยังไม่มีบทบัญญัติแห่งกฎหมายที่ชัดเจนเพื่อเป็นข้อพิจารณาในการอุทิศที่ดิน ทำให้เกิดปัญหาความขัดแย้งระหว่างรัฐกับเอกชนตลอดมา (4) จึงเสนอแนะแนวทางแก้ไข คือให้มีบทบัญญัติแห่งกฎหมายเกี่ยวกับการอุทิศที่ดินให้เป็นที่ดินสาธารณประโยชน์ทั้งการอุทิศที่ดินโดยชัดแจ้งโดยนำหลักการอุทิศที่ดินโดยชัดแจ้งของออสเตรเลียและสหรัฐอเมริกามาปรับใช้ กล่าวคือจะต้องมีการพิจารณากลั่นกรองจากหน่วยงานของรัฐในการรับการอุทิศที่ดินก่อน และนำหลักประโยชน์สาธารณะ หลักประโยชน์ส่วนตัวและหลักประโยชน์ร่วมกัน ในการอุทิศที่ดินมาเป็นข้อพิจารณาในการอุทิศที่ดินโดยชัดแจ้ง และให้มีหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการอุทิศที่ดินโดยปริยาย โดยกำหนดลักษณะการอุทิศที่ดินโดยปริยายจากการให้สาธารณชนใช้สอยโดยมิได้สงวนหวงห้ามหรือสงวนสิทธิการใช้ประโยชน์ หรือการปล่อยให้หน่วยงานของรัฐเข้าไปดำเนินการจัดทำบริการสาธารณะในที่ดินของตน และระยะเวลาที่จะถือได้ว่าเป็นอุทิศที่ดินโดยปริยาย |
URI: | https://ir.stou.ac.th/handle/123456789/8004 |
Appears in Collections: | Law-Independent study |
Files in This Item:
File | Description | Size | Format | |
---|---|---|---|---|
fulltext.pdf | เอกสารฉบับเต็ม | 16.85 MB | Adobe PDF | View/Open |
This item is licensed under a Creative Commons License