กรุณาใช้ตัวระบุนี้เพื่ออ้างอิงหรือเชื่อมต่อรายการนี้:
https://ir.stou.ac.th/handle/123456789/8050
ชื่อเรื่อง: | ปัญหาการนำมาตรการพิเศษตามกฎหมายเกี่ยวกับการคุ้มครองพยานในคดีอาญา พ.ศ. 2546 มาใช้ในการคุ้มครองพยานในคดีทุจริต |
ชื่อเรื่องอื่นๆ: | Problem to implementation of the special measures under the witness protection act BE 2546 to protect witness in corruption case |
ผู้แต่ง/ผู้ร่วมงาน: | วรรณวิภา เมืองถํ้า กฤษฎา เจือละออง, 2532- มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สาขาวิชานิติศาสตร์ |
คำสำคัญ: | มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สาขาวิชานิติศาสตร์--การศึกษาเฉพาะกรณี มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. วิชาเอกกฎหมายอาญาและกระบวนการยุติธรรม--การศึกษาเฉพาะกรณี พยานหลักฐาน--กฎหมายและระเบียบข้อบังคับ การศึกษาอิสระ--กฎหมายอาญาและกระบวนการยุติธรรม |
วันที่เผยแพร่: | 2560 |
สำนักพิมพ์: | มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช |
บทคัดย่อ: | การศึกษาค้นคว้าอิสระเรื่องนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาหลักการและแนวคิดเกี่ยวกับการคุ้มครองพยานในคดีอาญา บทบาทของหน่วยงานที่มีภารกิจเกี่ยวข้องกับการให้ความคุ้มครองพยาน เพื่อศึกษาเงื่อนไขและวิธีดำเนินการคุ้มครองพยานโดยใช้มาตรการพิเศษ รวมทั้งระเบียบและประกาศที่เกี่ยวข้องและศึกษาการคุ้มครองพยานตามมาตรการพิเศษตามกฎหมายระหว่างประเทศ และกฎหมายต่างประเทศ เพื่อศึกษาปัญหาที่เกิดจากการนำมาตรการพิเศษมาใช้ในการคุ้มครองพยานในคดีทุจริต และเพื่อศึกษาแนวทางการแก้ไขกฎหมายเกี่ยวกับการคุ้มครองพยาน การศึกษาค้นคว้าอิสระนี้ เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพ ด้วยวิธีการวิจัยทางเอกสาร จากตำรา หนังสือ สารนิพนธ์ วิทยานิพนธ์ เอกสารทางวิชาการ บทความ วารสาร ตัวบทกฎหมาย คำพิพากษาของศาล ข้อมูลจากสื่ออิเล็กทรอนิกส์ และเอกสารอื่นที่เกี่ยวข้อง ผลการศึกษาพบว่า ปัญหาที่เกิดจากการนำมาตรการพิเศษมาใช้ในคดีทุจริตเกิดจากปัญหาการไม่บัญญัติเรื่องการคุ้มครองพยานในกรณีเร่งด่วนไว้ในพระราชบัญญัติคุ้มครองพยานในคดีอาญา พ.ศ. 2546 ปัญหาการกำหนดตัวบุคคลที่ได้รับความคุ้มครอง การกำหนดคดีความผิดที่ได้รับความคุ้มครอง การกำหนดมาตรการในการให้ความคุ้มครอง และการขอให้ความคุ้มครองบุคคลอื่นๆ นอกจากพยานร้องขอ ไว้ในพระราชบัญญัติคุ้มครองพยานในคดีอาญา พ.ศ. 2546 ยังไม่มีความเหมาะสม ปัญหาการไม่บัญญัติบทลงโทษทางวินัยแก่ผู้บังคับบัญชาที่ขัดขวางการเปิดเผยข้อมูล และการให้ความคุ้มครองบุคคลผู้ที่กำลังจะเปิดเผยข้อมูลไว้ในพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 และพระราชบัญญัติมาตรการของฝ่ายบริหารในการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2551 และปัญหาในทางปฏิบัติกรณีการเปลี่ยนชื่อ ชื่อสกุลของพยาน ผู้ศึกษาจึงขอเสนอแนะให้บัญญัติเพิ่มเติมกรณีการคุ้มครองพยานกรณีจำเป็นเร่งด่วนไว้ในพระราชบัญญัติคุ้มครองพยานในคดีอาญา พ.ศ. 2546 มาตรา 6/1 แก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติคุ้มครองพยานในคดีอาญา พ.ศ. 2546 มาตรา 3, 8 และ 10 บัญญัติเรื่องบทลงโทษทางวินัยแก่ผู้บังคับบัญชาที่ขัดขวางการเปิดเผยข้อมูล และการให้ความคุ้มครองบุคคลผู้ที่กำลังจะเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับการทุจริตไว้ในพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 มาตรา 103/2 และมาตรา 120/1 และพระราชบัญญัติมาตรการของฝ่ายบริหารในการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2551 มาตรา 53 และมาตรา 64/1 และแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติคุ้มครองพยานในคดีอาญา พ.ศ. 2546 มาตรา 10 เกี่ยวกับการประสานให้เปลี่ยนชื่อ ชื่อสกุลให้พยานที่กระทำต่อเจ้าพนักงานหรือหน่วยงานอื่นใด มิให้ถือว่าเป็นการกระทำที่เป็นความผิด และเจ้าพนักงานได้รับการยกเว้นไม่ต้องรับผิดทางอาญา ทางแพ่งและทางวินัย |
URI: | https://ir.stou.ac.th/handle/123456789/8050 |
ปรากฏในกลุ่มข้อมูล: | Law-Independent study |
แฟ้มในรายการข้อมูลนี้:
แฟ้ม | รายละเอียด | ขนาด | รูปแบบ | |
---|---|---|---|---|
fulltext.pdf | เอกสารฉบับเต็ม | 3.76 MB | Adobe PDF | ดู/เปิด |
รายการนี้ได้รับอนุญาตภายใต้ Creative Commons License