Please use this identifier to cite or link to this item:
                
    
    https://ir.stou.ac.th/handle/123456789/8057| Title: | การดักฟังทางโทรศัพท์ในคดีปราบปรามยาเสพติด | 
| Other Titles: | Telephone intercept on narcotics suppression | 
| Authors: | สิริพันธ์ พลรบ เจริญชัย บุญเกลี้ยง, 2511- มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สาขาวิชานิติศาสตร์ | 
| Keywords: | มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สาขาวิชานิติศาสตร์--การศึกษาเฉพาะกรณี มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. วิชาเอกกฎหมายอาญาและกระบวนการยุติธรรม--การศึกษาเฉพาะกรณี การดักฟังข้อมูลข่าวสาร ยาเสพติด--คดีและการสู้คดี การศึกษาอิสระ--กฎหมายอาญาและกระบวนการยุติธรรม | 
| Issue Date: | 2560 | 
| Publisher: | มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช | 
| Abstract: | การศึกษาค้นคว้าอิสระเรื่องนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาแนวความคิดเกี่ยวกับการสืบสวนพิเศษ โดยวิธีการดักฟัง และแนวความคิดเกี่ยวกับสิทธิ และเสรีภาพของประชาชนตามรัฐธรรมนูญ ศึกษาวิเคราะห์เปรียบเทียบการสืบสวนพิเศษ โดยการดักฟังตามพระราชบัญญัติป้องกัน และปราบปรามยาเสพติด พ.ศ. 2519 มาตรา 14 จัตวา กับการสืบสวนพิเศษโดยการดักฟังตามกฎหมายต่างประเทศ ศึกษาหลักกฎหมายเกี่ยวกับการสืบสวนพิเศษโดยการดักฟังตามพระราชบัญญัติป้องกัน และปราบปรามยาเสพติด พ.ศ. มาตรา 14 จัตวา เพื่อเสนอแนวทางแก้ไขปรับปรุงการสืบสวนพิเศษโดยการดักฟังตามพระราชบัญญัติป้องกัน และปราบปรามยาเสพติด พ.ศ. 2519 มาตรา 14 จัตวา เพื่อมิให้เกินขอบเขตในการจำกัดสิทธิ และเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ การศึกษาค้นคว้าอิสระนี้เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพโดยวิจัยจากเอกสาร จากการค้นคว้า และรวบรวมข้อมูลจากหนังสือและตำรากฎหมาย บทความเอกสาร รายงานการวิจัย วิทยานิพนธ์ ตลอดจนเอกสาร สิ่งพิมพ์ และสื่อทางอิเล็กทรอนิกส์ในระบบออนไลน์ต่าง ๆ ผลการศึกษา พบว่า สิทธิและเสรีภาพในการสื่อสารถึงกันของประชาชนเป็นสิทธิเสรีภาพ ขั้นพื้นฐานที่ได้รับการคุ้มครองตามรัฐธรรมนูญ เนื่องจากพระราชบัญญัติป้องกัน และปราบปราม ยาเสพติด พ.ศ. 2519 มาตรา 14 จัตวา เป็นกฎหมายที่ให้อำนาจเจ้าพนักงานสืบสวนในรูปแบบพิเศษ โดยการดักฟัง โดยจะต้องปฏิบัติตามขั้นตอนตามระเบียบคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ว่าด้วยการได้มา การใช้ประโยชน์ และการเก็บรักษาข้อมูลข่าวสาร พ.ศ. 2545 แต่ก็พบว่าในการใช้มาตรการในการดำเนินการยังไม่เป็นการคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของประชาชนในการติดต่อสื่อสารถึงกันอัน เนื่องมาจากไม่มีการกำหนดถึงตำแหน่ง คุณสมบัติ ความรู้ความสามรถของเจ้าพนักงานที่มีอำนาจดักฟังไว้อย่างชัดเจน ไม่มีองค์กรอื่นเข้าร่วมในการกลั่นกรองก่อนเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดพิจารณาอนุมัติให้มีการดักฟัง ไม่มีการรายงานผลการดักฟังและกำหนดระยะเวลาในการรายงานผลการดักฟังภายหลังจากที่อธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญาอนุญาตให้มีการดักฟังไว้อย่างชัดเจน จึงเป็นช่องว่างและไม่เพียงพอที่จะคุ้มครองสิทธิเสรีภาพในการสื่อสารของประชาชน ควรที่จะปรับปรุงแก้ไขกฎหมาย เพื่อใช้เป็นแนวทางในการดำเนินการ เพื่อมิให้เจ้าพนักงานใช้อำนาจกระทำการที่เกินขอบเขตในการจำกัดสิทธิและเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ | 
| URI: | https://ir.stou.ac.th/handle/123456789/8057 | 
| Appears in Collections: | Law-Independent study | 
Files in This Item:
| File | Description | Size | Format | |
|---|---|---|---|---|
| fulltext.pdf | เอกสารฉบับเต็ม | 3.26 MB | Adobe PDF | View/Open | 
This item is licensed under a Creative Commons License
     
    
