พฤติกรรมการซื้อประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจของผู้บริโภคในจังหวัดปทุมธานี

Abstract

การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา (1) ลักษณะส่วนบุคคลของผู้ซื้อประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจของผู้บริโภคในจังหวัดปทุมธานี (2) ข้อมูลพฤติกรรมการซื้อประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจของผู้บริโภคในจังหวัดปทุมธานี (3) ระดับความสำคัญของส่วนประสมการตลาดที่มีต่อพฤติกรรมการซื้อประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจของผู้บริโภคในจังหวัดปทุมธานี (4) ระดับการรับรู้ของผู้บริโภคในการซื้อประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจของผู้บริโภคในจังหวัดปทุมธานี การศึกษาครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงสำรวจ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ ผู้มีรถยนต์และอาศัยอยู่ในเขตจังหวัดปทุมธานี ทั้งเพศชายและเพศหญิง อายุตั้งแต่18 ปีขึ้นไป ทำประกันภัยตั้งแต่ เดือน พฤษภาคม ถึง สิ งหาคม 2558 ซึ่งไม่ทราบจำนวนประชากร จึงได้กำหนดขนาดตัวอย่าง โดยใช้ตาราง Seymour Sudman ได้จำนวน 200 คน โดยใช้การสุ่มตัวอย่างแบบเจาะจงลูกค้าตามความสะดวก ใช้แบบสอบถามเป็นเครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูลและการวิเคราะห์ข้อมูล ใช้ค่าสถิติร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลการศึกษา พบว่า (1) ข้อมูลส่วนบุคคลของกลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่เป็นเพศหญิงอายุระหว่าง 28-37 ปี มีสถานภาพโสด การศึกษาระดับปริญญาตรี ประกอบอาชีพเป็นพนักงานเอกชน มีรายได้เฉลี่ย 15,001-30,000 บาทต่อเดือน (2) พฤติกรรมการผู้ซื้อประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจพบว่าอายุรถที่ใช้อยู่ระหว่าง 1-7 ปี รถยนต์ที่พบมากที่สุดเป็นรถยนต์นั้ง ส่วนบุคคล ทำประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจประเภท1 จะต่ออายุกรมธรรม์เมื่อกรมธรรม์ใกล้หมดอายุ สาเหตุที่ซื้อกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์มากที่สุดคือเห็นความสำคัญและประโยชน์ของการทำประกันรถยนต์ที่ช่วยแบ่งภาระความเสี่ยงภัย ได้รับข้อมูลจากพนักงาน ขายมากที่สุด งบประมาณที่ชำระค่าเบี้ยประกันภัยต่อปี จะอยู่ที่ 5,001-10,000 ทำการซื้อจากบริษัทวิริยะ ประกันภัย จํากัด(มหาชน) (3)ระดับความสำคัญของส่วนประสมการตลาดพบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่ให้ระดับความสำคัญกับด้าน ผลิตภัณฑ์มากที่สุด 4) ระดับการรับรู้ของผู้ซื้อประก้นภัยมากที่สุด ด้านผลประโยชน์ต่อคนรอบข้าง และมีระดับการรับรู้น้อยที่สุด คือความคุ้มครองที่ได้รับจากบริษัทประกนภัย