Please use this identifier to cite or link to this item: https://ir.stou.ac.th/handle/123456789/832
Title: การประเมินความรู้และพฤติกรรมการป้องกันโรคเด็กปฐมวัยของมารดา : กรณีศึกษา "ไข้หวัดใหญ่ 2009" ในเขตเทศบาลตำบลบางม่วง อำเภอบางใหญ่ จังหวัดนนทบุรี
Other Titles: A knowledge and practice assessment of discese prevention for pre-school children by their mothers : a case study of "Influenza 2009" Bang Muang Municipality Bangyai Nonthaburi Province
Authors: โกวิน วิวัฒนพงศ์พันธ์
นาฎน้อย ศรีแสง, 2509-
มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สำนักบัณฑิตศึกษา
สุรเดช ประดิษฐบาทุกา
Keywords: มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สาขาวิชาวิทยาศาสตร์สุขภาพ--วิทยานิพนธ์
มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. แขนงวิชาสาธารณสุขศาสตร์--วิทยานิพนธ์
ไข้หวัดใหญ่--การป้องกันและควบคุม
Issue Date: 2552
Publisher: มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช
Abstract: การวิจัยเชิงสำรวจนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา (1) ปัจจัยส่วนบุคคลของมารดาเด็กปฐมวัยในเขตเทศบาลตำบลบางม่วง (2) ระดับความรู้และพฤติกรรมการดูแลสุขภาพเด็กปฐมวัยของมารดาเกี่ยวกับโรค “ไข้หวัดใหญ่ 2009” ในเขตเทศบาลตำบลบางม่วง และ (3) ความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยส่วนบุคคลและระดับความรู้ของมารดากับพฤติกรรมการดูแลสุขภาพเด็กปฐมวัยของมารดาเกี่ยวกับโรค “ไข้หวัดใหญ่ 2009" ในเขตเทศบาลตำบลบางม่วง ประชากรที่ศึกษา คือ มารดาเด็กปฐมวัยซึ่งมีอายุระหว่าง 5 - 6 ปี และศึกษาอยู่ชั้นอบุบาลปีที่ 2 ในโรงเรียนเขตเทศบาล จำนวน 170 คน โดยศึกษากับทุกหน่วยประชากร เก็บรวบรวมข้อมูลโดยใช้แบบสอบถามวัดระดับความรู้ที่มีค่าความเที่ยง 0.657 วัดระดับพฤติกรรมในภาวะปกดีและภาวะเจ็บป่วย ที่มีค่าความเที่ยง 0.845 และ 0.669 ตามลำดับ วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติ ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าสหสัมพันธ์ไคสแควร์ และสมประสิทธิ์สหสัมพันธ์เพียรสัน ผลการวิจัยพบว่า (1) กลุ่มตัวอย่างเป็นเพศหญิงทั้งหมด เป็นมารดาโดยกำเนิด ร้อยละ 81.80 อายุ 31-40 ปี ร้อยละ 47.10 การศึกษามัธยมศึกษาตอนปลายหรือเทียบเท่า ร้อยละ 28.80 อาชีพรับจ้างทั่วไป ร้อยละ 28.80 รายได้เฉลี่ยต่อเดือน 11,782.82 บาท ส่วนใหญ่มีรายได้พอดีกับรายจ่าย ร้อยละ 42.40 (2) มีความรู้เรื่องโรคระดับปานกลาง และพฤติกรรมในภาวะปกดีและในภาวะเจ็บป่วย ระดับดี (3) ปัจจัยส่วนบุคคล คือ ระดับการศึกษามีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมในภาวะเจ็บป่วย อย่างมีนัยสำคัญทางสถิดีที่ p-value < 0.05 และระดับความรู้มีความสัมพันธ์ทางบวกกับพฤติกรรมในภาวะปกดีโดยรวมและรายด้าน กับด้านส่งเสริมสุขภาพ ด้านป้องกันการระบาดของโรค อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 โดยมีค่าสมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ เท่ากับ 0.249, 0.212 และ 0.257 กับด้านการป้องกันความรุนแรงของโรค อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 โดยมีค่าสัมประสิทธิ์สัทสัมพันธ์ เท่ากับ 0.174 แต่ไม่มีความสัมพันธ์กับพฤติกรรมในภาวะเจ็บป่วยทั้งโดยรวมและรายด้าน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 (4) ปัญหาอุปสรรค ส่วนใหญ่ได้รับข่าวสารเรื่องโรคทางโทรทัศน์เป็นลำดับที่ 1 ร้อยละ 97.10 ไม่เคยได้รับข่าวสารเรื่องโรค ร้อยละ 2.90 มีความต้องการฉีดวัคซีน ร้อยละ 88.20 และร้อยละ 11.80 ไม่ต้องการฉีดเพราะไม่ทราบสถานที่ฉีด กลัวอันตรายจากวัคซีนจึงมีข้อเสนอแนะว่าควรเร่งให้ความรู้เรื่องโรค “ไข้หวัดใหญ่ 2009” ที่ครอบคลุมทุกด้านอย่างต่อเนื่อง และรณรงค์สร้างเสรีทัศนคติที่ถูกด้อง และเหมาะสมแก่ประชาชน ผ่านช่องทางสื่อประชาสัมพันธ์ต่าง ๆ และที่ดีที่สุด คือ โทรทัศน์
Description: วิทยานิพนธ์ (ส.ม.(สาธารณสุขศาสตร์))--มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช, 2552
URI: http://ir.stou.ac.th/handle/123456789/832
Appears in Collections:Health-Theses

Files in This Item:
File Description SizeFormat 
118473.pdfเอกสารฉบับเต็ม6.4 MBAdobe PDFView/Open


This item is licensed under a Creative Commons License Creative Commons