Please use this identifier to cite or link to this item: https://ir.stou.ac.th/handle/123456789/9020
Title: กระบวนการยุติธรรมเชิงสมานฉันท์ : ศึกษากรณีปัญหาการทำร้ายร่างกายระหว่างสามีภริยา
Other Titles: Restorative justice : case study of wife assault
Authors: ภัฎฐิญา สิริบวรพิพัฒน์
ณัฐรดา ไล้ทองคำ, 2529-
มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สาขาวิชานิติศาสตร์
Keywords: มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. วิชาเอกกฎหมายอาญาและกระบวนการยุติธรรม--การศึกษาเฉพาะกรณี
มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สาขาวิชานิติศาสตร์--การศึกษาเฉพาะกรณี
การทำร้ายร่างกาย
การศึกษาอิสระ--กฎหมายอาญาและกระบวนการยุติธรรม
กระบวนการยุติธรรมเชิงสมานฉันท์
Issue Date: 2556
Publisher: มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช
Abstract: การศึกษาค้นคว้าอิสระ เรื่อง กระบวนการยุติธรรมเชิงสมานฉันท์ : ศึกษากรณีปัญหา การทำร้ายร่างกายระหว่างสามีภริยา มีวัตถุประสงค์ในการศึกษาความเป็นมา แนวคิด รูปแบบ และขั้นตอนของกระบวนการยุติธรรมเชิงสมานฉันท์ ความเหมาะสม ตลอดจนข้อดีข้อเสียในการนำ กระบวนการยุติธรรมเชิงสมานฉันท์มาปรับใช้ในการฟืนฟูเยียวยาการกระทำความผิดฐานทำร้ายร่างกายระหว่างสามีภริยาควบคู่กับกระบวนการยุติธรรมกระแสหลัก เพื่อหาแนวทางในการกำหนดรูปแบบของการนำกระบวนการยุติธรรมเชิงสมานฉันท์มาใช้กับการลงโทษผู้กระทำความผิดฐานทำร้ายร่างกายระหว่างสามีภริยา เป็นการศึกษาวิจัยเชิงคุณภาพ โดยศึกษาวิจัยจากเอกสาร ซึ่งทำการรวบรวมเอกสาร ทั้งจากตำรา หนังสือ บทความ งานวิจัย วิทยานิพนธ์ และผลงานทางวิชาการอื่นๆ รวมถึงหลักกฎหมายที่เกี่ยวกับกระบวนการยุติธรรมเชิงสมานฉันท์ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ จากการศึกษาพบว่า การดำเนินการตามกระบวนการยุติธรรมกระแสหลักในความผิด ฐานทำร้ายร่างกายตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 295 ระหว่างสามีภริยามุ่งเน้นแต่เพียงการลงโทษผู้กระทำความผิดเป็นสำคัญ แม้ศาลจะมีดุลพินิจในการใช้มาตรการรอการลงโทษตามมาตรา 56 ก็ไม่ทำให้ผู้กระทำความผิดตระหนักหรือสำนึกในการกระทำของตน หรือลดความขัดแย้งระหว่างสามีภริยาได้ส่งผลกระทบต่อส้มพันธภาพอันดีระหว่างสามีภริยาในระยะยาว เนื่องจากไม่มีการฟื้นฟูหรือปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของผู้กระทำความผิด รวมถึงไม่มีการเยียวยาผู้เสียหายอย่างแท้จริง แต่หากมีการนำกระบวนการยุติธรรมเชิงสมานฉันท์ในรูปแบบการไกล่เกลี่ยระหว่าง ผู้เสียหายและผู้กระทำความผิดมาใช้ควบคู่กับกระบวนการยุติธรรมกระแสหลักโดยมีการกำหนด แนวทางร่วมกันและบัญญัติกฎหมายรองรับการปฏิบัติงาน แก่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะส่งผลให้ ผู้กระทำความผิดมีความสำนึกและรับผิดชอบในการกระทำทั้งยังสามารถรักษาส้มพันธภาพอันดี ระหว่างกันและลดความขัดแย้งที่อาจเกิดขื้นในอนาคตด้วย
URI: https://ir.stou.ac.th/handle/123456789/9020
Appears in Collections:Law-Independent study

Files in This Item:
File Description SizeFormat 
Fulltext_145042.pdfเอกสารฉบับเต็ม14.17 MBAdobe PDFView/Open


This item is licensed under a Creative Commons License Creative Commons