Please use this identifier to cite or link to this item: https://ir.stou.ac.th/handle/123456789/13875
Full metadata record
DC FieldValueLanguage
dc.contributor.advisorอัจฉรา โพธิ์ดีth_TH
dc.contributor.authorวิชิตคมน์ จันทรมณี, 2539-th_TH
dc.contributor.otherมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สำนักบัณฑิตศึกษาth_TH
dc.date.accessioned2025-01-30T02:59:06Z-
dc.date.available2025-01-30T02:59:06Z-
dc.date.issued2565-
dc.identifier.urihttps://ir.stou.ac.th/handle/123456789/13875en_US
dc.descriptionวิทยานิพนธ์ (กษ.ม. (การจัดการการเกษตร))--มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช, 2565th_TH
dc.description.abstractการวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาข้อมูลพื้นฐานของสมาชิกผู้ปลูกข้าวของเครือข่ายวิสาหกิจชุมชนกลุ่มส่งเสริมอาชีพตำบลป่าอ้อ 2) ศึกษากระบวนการผลิตและการตลาด ปัญหาการผลิตและการตลาดข้าวแบบดั้งเดิมและแบบอินทรีย์ของสมาชิกผู้ปลูกข้าว 3) ศึกษาต้นทุนและผลตอบแทนการผลิตข้าวแบบดั้งเดิมและแบบอินทรีย์ของสมาชิกผู้ปลูกข้าว และ 4) จัดทำแนวทางแก้ไขปัญหาการผลิตและการตลาดข้าวของสมาชิกผู้ปลูกข้าว การวิจัยนี้เป็นการวิจัยผสมวิธี โดยการวิจัยเชิงปริมาณ ประชากรในการวิจัย คือ สมาชิกผู้ปลูกข้าวของเครือข่ายวิสาหกิจชุมชนกลุ่มส่งเสริมอาชีพตำบลป่าอ้อจำนวน 30 ราย จำแนกเป็นผู้ปลูกข้าวแบบดั้งเดิม 12 ราย และผู้ปลูกข้าวแบบอินทรีย์ 18 ราย เก็บรวบรวมข้อมูลโดยใช้แบบสอบถามจากสมาชิกผู้ปลูกข้าวทุกราย สถิติที่ใช้วิเคราะห์ข้อมูลคือ ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การวิจัยเชิงคุณภาพ ประชากรในการวิจัย คือ คณะกรรมการเครือข่ายวิสาหกิจชุมชนฯ สมาชิกผู้ปลูกข้าว และผู้ที่เกี่ยวข้อง โดยการเลือกกลุ่มตัวอย่างแบบเจาะจงจำนวน 7 ราย เก็บรวบรวมข้อมูลโดยใช้การระดมสมองในประเด็นเกี่ยวกับปัญหาและแนวทางแก้ไขปัญหาการผลิตและการตลาดข้าวของสมาชิก ข้อมูลเชิงคุณภาพใช้การวิเคราะห์เนื้อหา ผลการวิจัยพบว่า 1) สมาชิกผู้ปลูกข้าวส่วนใหญ่เป็นเพศชาย อายุเฉลี่ย 51.50 ปี จบการศึกษาระดับประถมศึกษา สถานภาพสมรส อาชีพหลักส่วนใหญ่คือทำนา มีประสบการณ์ปลูกข้าวโดยรวมเฉลี่ย 15.80 ปี ผู้ปลูกข้าวแบบอินทรีย์มีประสบการณ์ปลูกข้าวอินทรีย์เฉลี่ย 6.80 ปี แรงงานครัวเรือนเฉลี่ย 2 คน ขนาดที่ดินทำนาเฉลี่ย 22.40 ไร่ ส่วนใหญ่ใช้เงินทุนของตนเองในการทำนา 2) กระบวนการผลิตเริ่มตั้งแต่การเตรียมเมล็ดพันธุ์ การเตรียมดิน การปลูก การดูแลรักษา การเก็บเกี่ยว และการจัดการหลังการเก็บเกี่ยว ผู้ปลูกข้าวแบบดั้งเดิมจำหน่ายข้าวให้แก่โรงสีในท้องถิ่น ส่วนผู้ปลูกข้าวแบบอินทรีย์จำหน่ายข้าวให้แก่เครือข่ายวิสาหกิจชุมชนฯ ปัญหาการผลิตและการตลาดข้าวที่พบ อาทิ เมล็ดพันธุ์ข้าวมีพันธุ์ปน ปุ๋ยมีราคาแพง และราคาผลผลิตตกต่ำ 3) ต้นทุนและผลตอบแทนการผลิตข้าวจำแนกตามประเภทการผลิตและพันธุ์ข้าว พบว่า การผลิตข้าวพันธุ์ขาวดอกมะลิ 105 และพันธุ์ กข 49 แบบดั้งเดิม และการผลิตข้าวพันธุ์ไรซ์เบอร์รี่แบบอินทรีย์มีต้นทุนการผลิตรวมเฉลี่ย 6,060.82, 5,661.00 และ 6,851.05 บาทต่อไร่ ตามลำดับ ผลตอบแทนเท่ากับ 6,484.79, 5,994.94 และ 6,804.23 บาทต่อไร่ ตามลำดับ ทำให้มีผลตอบแทนสุทธิเท่ากับ 423.97, 333.94 และ -46.79 บาทต่อไร่ ตามลำดับ และ 4) แนวทางแก้ไขปัญหาการผลิตและการตลาดข้าวคือ ควรมุ่งเน้นการลดต้นทุนการผลิตข้าวด้วยวิธีการต่าง ๆ อาทิ การใช้เมล็ดพันธุ์จากแหล่งที่เชื่อถือได้ และการใช้ปุ๋ยตามค่าวิเคราะห์ดิน เพื่อทำให้ได้รับผลตอบแทนสุทธิจากการผลิตเพิ่มขึ้นth_TH
dc.formatapplication/pdfen_US
dc.language.isothen_US
dc.publisherมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราชth_TH
dc.rightsมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราชth_TH
dc.rightsAttribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International (CC BY-NC-ND 4.0)en_US
dc.rights.urihttps://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0/en_US
dc.sourceBorn digitalen_US
dc.subjectมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สาขาวิชาเกษตรศาสตร์และสหกรณ์--วิทยานิพนธ์th_TH
dc.subjectมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. แขนงวิชาการจัดการการเกษตร--วิทยานิพนธ์th_TH
dc.subjectข้าว--การผลิต--ไทย--อุทัยธานีth_TH
dc.titleต้นทุนและผลตอบแทนการผลิตข้าวแบบดั้งเดิมและแบบอินทรีย์ของสมาชิกเครือข่ายวิสาหกิจชุมชนกลุ่มส่งเสริมอาชีพตำบลป่าอ้อ อำเภอลานสัก จังหวัดอุทัยธานีth_TH
dc.title.alternativeCosts and returns of rice production with conventional and organic methods by members of the Community Enterprise Network of Pa O Sub-district Occupational Promotion Group, Lan Sak District, Uthai Thani Provinceen_US
dc.typeThesisen_US
dc.degree.nameเกษตรศาสตรมหาบัณฑิต (การจัดการทรัพยากรเกษตร)th_TH
dc.degree.levelปริญญาโทth_TH
dc.degree.disciplineสาขาวิชาเกษตรศาสตร์และสหกรณ์th_TH
dc.degree.grantorมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราชth_TH
dc.description.abstractalternativeThe objectives of the research were to 1) study basic information of rice growers who were members of the Community Enterprise Network of Pa O Sub-district Occupational Promotion Group, 2) study the production process, marketing, and problems of production and marketing of these rice growers (both conventional and organic methods), 3) study costs and returns of rice production with conventional and organic methods, and 4) develop guidelines for solving rice production and marketing problems of these rice growers. This research was mixed-methods research. For quantitative research, the study population was 30 rice growers who were members of the Community Enterprise Network of Pa O Sub-district Occupational Promotion Group, consisting of 12 conventional rice growers and 18 organic rice growers. Data were collected by using questionnaires from all the rice growers. The statistics used for data analysis were frequency, percentage, mean and standard deviation. For qualitative research, the study population was the community enterprise network committee, rice grower members, and related persons, from which 7 people were selected by purposive sampling. The data were collected by brainstorming on issues and solutions to rice growers' production and marketing problems. Qualitative data were analyzed using content analysis. The results showed that 1) most of the rice growers were male, with an average age of 51.50 years, had completed primary education, and married. Their main occupation was rice farming, with an average of 15.80 years’ experience in rice farming, and an average of 6.80 years’ experience in organic rice farming. They had an average of 2 household laborers and an average land area of 22.40 rai (3.58 hectares). Most of them used their own funds for rice farming. 2) The production process comprised seed preparation, soil preparation, planting, maintenance, harvesting, and post-harvest management. The conventional rice growers sold their product to a local mill, while organic rice growers sold their product to the community enterprise network. There were problems in rice production and marketing, such as rice seed was contaminated with other varieties, fertilizer was expensive, and rice prices received were low. 3) For costs and returns of rice production classified by type of production and rice varieties, it was found that the average total costs of production of conventionally grown Khao Dawk Mali 105 and RD 49 rice varieties, and organically grown Riceberry were 6,060.82, 5,661.00 and 6,851.05 baht per rai, respectively, and the returns were 6,484.79, 5,994.94 and 6,804.23 baht per rai, respectively, resulting in net returns of 423.97, 333.94 and -46.79 baht per rai respectively (1 rai = 1,600 m2). 4) Guidelines for solving rice production and marketing problems were to focus on reducing the production costs through various methods, such as using seed from reliable sources and fertilizer use according to soil analysis values in order to gain higher net returns from the production.en_US
dc.contributor.coadvisorนาลัน แป้นปลื้มth_TH
Appears in Collections:Agri-Theses

Files in This Item:
File Description SizeFormat 
FULLTEXT.pdfเอกสารฉบับเต็ม12.97 MBAdobe PDFView/Open


This item is licensed under a Creative Commons License Creative Commons