Please use this identifier to cite or link to this item: https://ir.stou.ac.th/handle/123456789/1077
Title: ความเข้าใจ ทัศนคติ และการใช้ตัวชี้วัดผลการทำงานหลักงานคุ้มครองผู้บริโภคของเจ้าหน้าที่สาธารณสุขที่รับผิดชอบงานคุ้มครองผู้บริโภค จังหวัดมุกดาหาร
Other Titles: Comprehension , attitudes, and application of key performance indicatiors of health consumer protection among responsible health personnel in Mukdahan province
Authors: อดิศักดิ์ สัตย์ธรรม, อาจารย์ที่ปรึกษา
เยาวภา ปิ่นทุพันธ์, อาจารย์ที่ปรึกษา
สุภาพ วงศ์พัฒนวุฒิ, 2509-
มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สำนักบัณฑิตศึกษา
Keywords: มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สาขาวิชาวิทยาศาสตร์สุขภาพ--วิทยานิพนธ์
มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. แขนงวิชาสาธารณสุขศาสตร์--วิทยานิพนธ์
เจ้าหน้าที่สาธารณสุข--การทำงาน
เจ้าหน้าที่สาธารณสุข--ทัศนคติ
การคุ้มครองผู้บริโภค
Issue Date: 2546
Publisher: มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช
Abstract: การวิจัยมีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) จําแนกระดับความเข้าใจตัวชี้วัดผลการทํางานหลักงานคุ้มครองผู้บริโภคของเจ้าหน้าที่สาธารณสุขที่รับผิดชอบงานคุ้มครองผู้บริโภค (2) เพื่อ จำแนก ระดับการใช้ตัวชี้วัดผลการทำงานหลักงานคุ้มครองผู้บริโภคของเจ้าหน้าที่สาธารณสุขที่รับผิดชอบงานคุ้มครองผู้บริโภค (3) เพื่อจำแนกระดับทัศนคติต่อตัวชี้วัดผลการทํางานหลักงานคุ้มครองผู้บริโภคของเจ้าหน้าที่สาธารณสุข รับผิดชอบงานคุ้มครองผู้บริโภค (4) เพื่อศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างความเข้าใจและทัศนคติกับการใช้ตัวชี้วัดผลการทํางานหลักงานคุ้มครองผู้บริโภคของเจ้าหน้าที่สาธารณสุข รับผิดชอบงานคุ้มครองผู้บริโภค (5) เพื่อศึกษาปัญหาอุปสรรคและข้อเสนอแนะในการใช้ตัวชี้วัดผลการทํางานหลักงานคุ้มครองผู้บริโภคของเจ้าหน้าที่สาธารณสุข รับผิดชอบงานคุ้มครองผู้บริโภค การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงพรรณนา (Descriptive Research) ประชากรในการวิจัยครั้งนี้ประกอบด้วยเจ้าหน้าที่สามารณสุข รับผิดชอบงานคุ้มครองผู้บริโภคในปีงบประมาณ 2547 ในจังหวัดมุกดาหาร จํานวน 195 คน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลเพื่อการวิจัยครั้งนี้คือแบบสอบถาม เกี่ยวกับความเข้าใจ การใช้ ทัศนคติ ปัญหาอุปสรรค และข้อเสนอแนะต่อตัวชี้วัดผลการทำงานหลักงานคุ้มครองผู้บริโภคของ เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานที่รับผิดชอบงานคุ้มครองผู้บริโภค แบบสอบถามมีค่าความเทียงเท่ากับ 0.71, 0.70, 0.91,0.78 ตามลำดับ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลคือ การแจกแจงความถี่ ค่าเฉลี่ย ร้อยละ ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานการทดสอบสมมติฐานและการทดสอบความสัมพันธ์โดยการหาค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์เพียร์สันรวบรวมข้อมูลโดยการส่งแบบสอบถามทางไปรษณีย์ให้กลุ่มตัวอย่างตอบแล้วส่งกลับมายังผู้วิจัย ผลการวิจัยพบว่า 1) ระดับความเข้าใจตัวชี้วัดผลการทํางานหลักงานคุ้มครองผู้บริโภคของเจ้าหน้าที่สาธารณสุข ที่รับผิดชอบงานคุ้มครองผู้บริโภคอยู่ในระดับสูง (2) ระดับการใช้ตัวชี้วัดผลการทำงานหลักงานคุ้มครองผู้บริโภคของเจ้าหน้าที่สาธารณสุข รับผิดชอบงานคุ้มครองผู้บริโภคอยู่ในระดับสูง (3) ระดับทัศนคติของเจ้าหน้าที่สาธารณสุข รับผิดชอบงานคุ้มครองผู้บริโภคที่มีต่อด้วชี้วัดผลการทํางานหลักงานคุ้มครองผู้บริโภคอยู่ในระดับสูง (4) ความเข้าใจมีความสัมพันธ์ทางบวกกับการใช้ตัวชี้วัดผลการทำงานหลักงานคุ้มครองผู้บริโภคอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ในระดับความสัมพันธ์ค่อนข้างดี มีค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์เพียร์สันเท่ากับ 0.360 มีนัยสําคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01 ส่วนความสัมพันธ์ของความเข้าใจกับทัศนคติ และการใช้กับทัศนคติต่อตัวชี้วัดผลการทำงานหลักงานคุ้มครองผู้บริโภคของเจ้าหน้าที่สาธารณสุขมีความสัมพันธ์น้อยมากและไม่มีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 (5) เจ้าหน้าที่สาธารณสุขมีระดับปัญหาอุปสรรคการใช้ตัวชี้วัดผลการทำงานหลักงานคุ้มครองผู้บริโภค โดยมีสัดส่วนสูงสุดในระดับปานกลาง
Description: วิทยานิพนธ์ (ส.ม.(บริหารสาธารณสุข))--มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช, 2546
URI: http://ir.stou.ac.th/handle/123456789/1077
Appears in Collections:Health-Theses

Files in This Item:
File Description SizeFormat 
82153.pdfเอกสารฉบับเต็ม1.93 MBAdobe PDFView/Open


This item is licensed under a Creative Commons License Creative Commons