Please use this identifier to cite or link to this item: https://ir.stou.ac.th/handle/123456789/12653
Full metadata record
DC FieldValueLanguage
dc.contributor.advisorทวีศักดิ์ จินดานุรักษ์th_TH
dc.contributor.authorวริศนันท์ เดชปานประสงค์, 2509-th_TH
dc.contributor.otherมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สำนักบัณฑิตศึกษาth_TH
dc.date.accessioned2024-08-04T06:07:10Z-
dc.date.available2024-08-04T06:07:10Z-
dc.date.issued2557-
dc.identifier.urihttps://ir.stou.ac.th/handle/123456789/12653en_US
dc.descriptionดุษฎีนิพนธ์ (ปร.ด. (หลักสูตรและการสอน))--มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช, 2557th_TH
dc.description.abstractการวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อ 1) พัฒนารูปแบบการเรียนการสอนวิชาวิทยาศาสตร์ที่ส่งเสริมจิต 5 ลักษณะเพื่ออนาคต ได้แก่ ด้านความมีวินัยในตนเองทางการเรียน ด้านการคิดสังเคราะห์ ด้านการคิดสร้างสรรค์ ด้านการเคารพและเข้าใจผู้อื่น และด้านจริยธรรม สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 และ 2) ศึกษาประสิทธิผลของรูปแบบการเรียนการสอนวิชาวิทยาศาสตร์ที่ส่งเสริมจิต 5 ลักษณะเพื่ออนาคตสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 การดำเนินการวิจัย มีดังนี้ ระยะที่ 1 การสร้างและพัฒนารูปแบบการเรียนการสอน ด้วยการวิเคราะห์ร่างรูปแบบการเรียนการสอนวิชาวิทยาศาสตร์ที่ส่งเสริมจิต 5 ลักษณะเพื่ออนาคต วิเคราะห์ข้อมูล โดยการหาค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและการวิเคราะห์เนื้อหา วิเคราะห์แผนการเรียนการสอนและเครื่องมือวัดประสิทธิผลของรูปแบบ โดยการหาค่าดัชนีความสอดคล้อง หาค่าความเที่ยง และการวิเคราะห์เนื้อหา ระยะที่ 2 การประเมินประสิทธิผลของรูปแบบการเรียนการสอน กลุ่มตัวอย่าง คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 จำนวน 2 ห้องเรียน ได้มาด้วยการสุ่มแบบกลุ่ม โดยมีหน่วยการสุ่ม คือ ห้องเรียน แล้วสุ่มห้องเรียนที่ได้เป็นกลุ่มทดลองที่ใช้รูปแบบที่พัฒนาขึ้นและกลุ่มควบคุมที่สอนแบบปกติ จัดการเรียนการสอนตามการทดลองใช้เวลา 24 คาบ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบค่าที ผลการวิจัยมีดังนี้ 1) รูปแบบการเรียนการสอนที่พัฒนาขึ้น มีองค์ประกอบ ได้แก่ (1) หลักการของรูปแบบ (2) วัตถุประสงค์ของรูปแบบ (3) ขั้นตอนการเรียนการสอน ได้แก่ ขั้นที่ 1 การลับสมอง ขั้นที่ 2 การจัดประสบการณ์ ขั้นที่ 3 การฝึกปฏิบัติและการพัฒนา และขั้นที่ 4 การสรุปสังเคราะห์ และ (4) การวัดและประเมินผล ผลการประเมินความเหมาะสมของแต่ละองค์ประกอบของรูปแบบการเรียนการสอนโดยผู้เชี่ยวชาญอยู่ในระดับเหมาะสมมาก โดยมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 3.89 และ 2) การประเมินประสิทธิผลของรูปแบบการเรียนการสอนวิชาวิทยาศาสตร์ที่ส่งเสริมจิต 5 ลักษณะเพื่ออนาคต สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ปรากฏผล ดังนี้ (1) นักเรียนกลุ่มทดลองมีคะแนนเฉลี่ยโดยรวมและรายด้าน ได้แก่ ด้านความมีวินัยในตนเองทางการเรียนความสามารถด้านการคิดสังเคราะห์ ความสามารถด้านการคิดสร้างสรรค์ การแสดงออกของพฤติกรรมด้านการเคารพและเข้าใจผู้อื่น การแสดงออกของพฤติกรรมด้านจริยธรรม หลังการทดลองสูงกว่ากลุ่มควบคุมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 แต่คะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของทั้งสองกลุ่มไม่แตกต่างกัน และ (2) นักเรียนกลุ่มทดลองที่ได้รับการสอนโดยใช้รูปแบบที่พัฒนาขึ้นมีคะแนนเฉลี่ยจิตลักษณะในแต่ละด้านและโดยรวมหลังการทดลองสูงกว่าก่อนทดลองอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05th_TH
dc.formatapplication/pdfen_US
dc.language.isothen_US
dc.publisherมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราชth_TH
dc.rightsมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราชth_TH
dc.rightsAttribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International (CC BY-NC-ND 4.0)en_US
dc.rights.urihttps://creativecommons.org/licenses/by-nc-nd/4.0/en_US
dc.sourceBorn digitalen_US
dc.subjectมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สาขาวิชาศึกษาศาสตร์--วิทยานิพนธ์th_TH
dc.subjectมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. แขนงวิชาหลักสูตรและการสอน--วิทยานิพนธ์th_TH
dc.subjectวิทยาศาสตร์--การศึกษาและการสอน (มัธยมศึกษา)th_TH
dc.titleการพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนวิชาวิทยาศาสตร์ที่ส่งเสริมจิต 5 ลักษณะเพื่ออนาคต สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1th_TH
dc.title.alternativeDevelopment of a science instruction model enhancing five minds for the future for Mathayom Suksa 1 studentsen_US
dc.typeThesisen_US
dc.degree.nameปรัชญาดุษฎีบัณฑิตth_TH
dc.degree.levelปริญญาเอกth_TH
dc.degree.disciplineสาขาวิชาศึกษาศาสตร์th_TH
dc.degree.grantorมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราชth_TH
dc.description.abstractalternativeThe objectives of this research were 1) to develop a science instruction model enhancing five minds for the future for Mathayom Suksa I students; and 2) to study the effectiveness of the science instruction model enhancing five minds for the future for Mathayom Suksa I students. The research process comprised two phases as follows: The first phase was the creation and development of the instruction model by analyzing a drafted science instruction model enhancing five minds for the future, the data of which were analyzed using the mean, standard deviation, and content analysis. The instructional management plans and the model effectiveness evaluation form were also analyzed using the IOC index, reliability coefficient, and content analysis. The second phase was the effectiveness evaluation of the developed model. The research sample consisted of Mathayom Suksa I students in two intact classrooms obtained by cluster sampling using the classroom as the sampling unit. Then students in one classroom were randomly assigned as the experimental group to learn under the developed model; students in the other classroom, the control group to be taught by conventional teaching. The experiment covered 24 periods of instruction. Statistics employed for data analysis were the percentage, mean, standard deviation, and t-test. Research findings were as follows: 1) The developed science instruction model had the following components: (1) the model rationale; (2) the model objectives; (3) the steps of instruction which comprised four steps, namely, the first step: sharpening of the mind, the second step: provision of experience, the third step: practice and development, and the fourth step: synthesized conclusion; and (4) the measurement and evaluation; evaluation results of appropriateness of each component by the experts showed that all components were appropriate at the high level, with the rating mean of 3.89; and 2) evaluation of the effectiveness of the science instruction model enhancing five minds for the future for Mathayom Suksa I students showed the following results: (1) the experimental group students’ post-experiment overall and by-aspect rating means of their self- discipline in learning, synthesis thinking ability, creative thinking ability, exhibited respectful behaviors and sympathy for the others, and exhibited ethical behaviors were significantly higher than the counterpart rating means of the control group students at the .05 level. However, learning achievement scores of the two groups were not significantly different; and (2) the experimental group students, who were taught with the use of the developed science instruction model, had their post-experiment overall and by-aspect mean scores significantly higher than their pre-experiment counterpart mean scores at the .05 levelen_US
dc.contributor.coadvisorนวลจิตต์ เชาวกีรติพงศ์th_TH
dc.contributor.coadvisorไสว ฟักขาวth_TH
Appears in Collections:Edu-Theses

Files in This Item:
File Description SizeFormat 
fulltext.pdf34.69 MBAdobe PDFView/Open


This item is licensed under a Creative Commons License Creative Commons