กรุณาใช้ตัวระบุนี้เพื่ออ้างอิงหรือเชื่อมต่อรายการนี้:
https://ir.stou.ac.th/handle/123456789/1644
ชื่อเรื่อง: | ผลการให้การปรึกษาแบบกลุ่มตามแนวคิดทฤษฎีการปรึกษาเกสตัลท์ต่อการตระหนักรู้ในตนเองของนักเรียนพิการเรียนรวมโรงเรียนวังเหนือวิทยา จังหวัดลำปาง |
ชื่อเรื่องอื่นๆ: | The effects of group counseling based on gestalt counseling theory on self-awareness of disabled students in mainstreaming classroom of Wang Nuea Wittaya School, Lampang Province |
ผู้แต่ง/ผู้ร่วมงาน: | ลัดดาวรรณ ณ ระนอง, อาจารย์ที่ปรึกษา นิธิพัฒน์ เมฆขจร, อาจารย์ที่ปรึกษา ปนัดดา ยะติน, 2527- มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สำนักบัณฑิตศึกษา |
คำสำคัญ: | มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สาขาวิชาศึกษาศาสตร์ --วิทยานิพนธ์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. แขนงวิชาการแนะแนวและการปรึกษาเชิงจิตวิทยา --วิทยานิพนธ์ การให้คำปรึกษาแบบกลุ่ม นักเรียนมัธยมศึกษา--ไทย--ลำปาง |
วันที่เผยแพร่: | 2560 |
สำนักพิมพ์: | มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช |
บทคัดย่อ: | การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เปรียบเทียบการตระหนักรู้ในตนเองของนักเรียนพิการเรียนรวมของโรงเรียนวังเหนือวิทยา ก่อนและหลังการให้การปรึกษาแบบกลุ่มตามแนวคิดทฤษฎีการปรึกษาเกสตัลท์ของกลุ่มทดลอง และ 2) เปรียบเทียบการตระหนักรู้ในตนเองของนักเรียนพิการเรียนรวมของโรงเรียนวังเหนือวิทยาหลังการทดลอง ระหว่างกลุ่มทดลอง และกลุ่มควบคุม กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ เป็นนักเรียนพิการเรียนรวม ชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น โรงเรียนวังเหนือวิทยา จังหวัดลำปาง ที่มีคะแนนการตระหนักรู้ในตนเองต่ำกว่าเปอร์เซนไทล์ที่ 25 จำนวน 30 คน ได้มาโดยสุ่มอย่างง่าย แบ่งกลุ่มเป็น 2 กลุ่ม คือกลุ่มทดลอง และกลุ่มควบคุม กลุ่มละ15 คน กลุ่มทดลองได้รับการปรึกษาแบบกลุ่มตามแนวคิดทฤษฎีการปรึกษาเกสตัลท์ส่วนกลุ่มควบคุมได้รับกิจกรรมแนะแนวแบบปกติ เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยได้แก่ 1) แบบวัดการตระหนักรู้ในตนเอง มีค่าความเที่ยงเท่ากับ .73 2) โปรแกรมการให้การปรึกษาแบบกลุ่มตามแนวคิดทฤษฎีการปรึกษาเกสตัลท์ และ 3) กิจกรรมแนะแนวแบบปกติ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลได้แก่ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบค่าที ผลการวิจัยปรากฏว่า 1) นักเรียนพิการเรียนรวมที่ได้รับการให้การปรึกษาแบบกลุ่มตามแนวคิดทฤษฎีการปรึกษาเกสตัลท์ มีการตระหนักรู้ในตนเองสูงขึ้นกว่าก่อนการทดลองอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 และ 2) นักเรียนพิการเรียนรวมกลุ่มทดลองที่ได้รับการให้การปรึกษาแบบกลุ่ม ตามแนวคิดทฤษฎีการปรึกษาเกสตัลท์ มีการตระหนักรู้ในตนเองสูงกว่านักเรียนพิการเรียนรวมกลุ่มควบคุมที่ได้รับกิจกรรมแนะแนวแบบปกติ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 |
รายละเอียด: | วิทยานิพนธ์ (ศษ.ม. (การแนะแนวและการปรึกษาเชิงจิตวิทยา)--มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช, 2560 |
URI: | http://ir.stou.ac.th/handle/123456789/1644 |
ปรากฏในกลุ่มข้อมูล: | Edu-Theses |
แฟ้มในรายการข้อมูลนี้:
แฟ้ม | รายละเอียด | ขนาด | รูปแบบ | |
---|---|---|---|---|
fulltext_160988.pdf | เอกสารฉบับเต็ม | 2.22 MB | Adobe PDF | ดู/เปิด |
รายการนี้ได้รับอนุญาตภายใต้ Creative Commons License