Please use this identifier to cite or link to this item:
https://ir.stou.ac.th/handle/123456789/1819
Title: | ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการใช้หลักฐานเชิงประจักษ์ในการปฏิบัติการพยาบาลของพยาบาลวิชาชีพ โรงพยาบาลเชียงคำ จังหวัดพะเยา |
Other Titles: | Factors affecting to the use of evidence-based nursing practice at Chiengkham Hospital, Payao Province |
Authors: | ศรีนวล สถิตวิทยานันท์ อดินุช ศุภการกำจร, 2506- มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สำนักบัณฑิตศึกษา สายพิณ เกษมกิจวัฒนา |
Keywords: | มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. แขนงวิชาการบริหารการพยาบาล--วิทยานิพนธ์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. สาขาวิชาพยาบาลศาสตร์--วิทยานิพนธ์ พยาบาลวิชาชีพ--ภาระงาน การพยาบาล--การบริหาร |
Issue Date: | 2550 |
Publisher: | มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช |
Abstract: | การวิจัยเซิงพรรณาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา (1) การใช้หลักฐานเชิงประจักษ์ในการปฏิบัติการพยาบาลของพยาบาลวิชาชีพ (2) ความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยด้านนโยบายองค์กร ปัจจัยด้านการสนับสนุนจากผู้บริหาร ปัจจัยด้านสมรรถนะของพยาบาลและปัจจัยด้านปัญหาอุปสรรคกับการใช้หลักฐานเชิงประจักษ์ในการปฏิบัติการพยาบาล (3) ปัจจัยที่ร่วมทำนายการใช้หลักฐานเชิงประจักษ์ในการปฏิบัติการพยาบาลของพยาบาลวิชาชีพ กลุ่มตัวอย่างเป็นพยาบาลวิชาชีพ ทุกคนที่ปฏิบัติงานในโรงพยาบาลเชียงคำ จังหวัดพะเยาในช่วงที่ศึกษา จำนวน 199 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้เป็นแบบสอบถาม ข้อมูลส่วนบุคคล ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อการใช้หลักฐานเชิงประจักษ์ในการปฏิบัติการพยาบาล และการใช้หลักฐานเชิงประจักษ์ในการปฏิบัติการพยาบาล มีค่าความเที่ยงเท่ากับ .91 เก็บรวบรวมข้อมูลในเดือนมิถุนายน 2551 สถิติที่ใช้วิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์แบบเพียร์สัน และวิเคราะห์การถดถอยพหุคูณแบบขั้นตอน ผลการวิจัยพบว่า (1) การใช้หลักฐานเซิงประจักษ์ในการปฏิบัติการพยาบาลโดยรวมอยู่ในระดับปานกลาง ( X = 3.35) (2) ปัจจัยด้านสมรรถนะของพยาบาล ปัจจัยด้านนโยบายองค์กรปัจจัยด้านการสนับสนุนจากผู้บริหารมีความสัมพันธ์ทางบวกและปัจจัยด้านปัญหาอุปสรรคมีความสัมพันธ์ทางลบกับการใช้หลักฐานเชิงประจักษ์ในการปฏิบัติการพยาบาล (r = .53, P <.001; r= .42, P <.001; r = .35, p <.001; r = - .33, p <.001 ตามลำดับ) อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .001 (3) ปัจจัยด้านสมรรถนะของพยาบาล ปัจจัยด้านนโยบายองค์กรและปัจจัยด้านปัญหาอุปสรรค สามารถร่วมกันทำนายการใช้หลักฐานเชิงประจักษ์ในการปฏิบัติการพยาบาลได้ ร้อยละ 38 ( R2 = .38) อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .001 ผลการวิจัยครั้งนี้ใช้เป็นข้อมูลพื้นฐานในการพัฒนาระบบการใช้หลักฐานเชิงประจักษ์ในการปฏิบัติการพยาบาล เพื่อการพัฒนาคุณภาพการพยาบาลอย่างต่อเนื่องต่อไป |
Description: | วิทยานิพนธ์ (พย.ม. (การบริหารการพยาบาล))--มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช, 2550 |
URI: | http://ir.stou.ac.th/handle/123456789/1819 |
Appears in Collections: | Nurse-Theses |
Files in This Item:
File | Description | Size | Format | |
---|---|---|---|---|
Thesbib108913.pdf | เอกสารฉบับเต็ม | 4.75 MB | Adobe PDF | View/Open |
This item is licensed under a Creative Commons License